ไปโผล่ในโฆษณาของ Stamford University

ทาง Stamford University ได้นำผมและบิ๊ก Srihanart ไปเป็นส่วนหนึ่งในโฆษณาของทางมหาวิทยาลัย. จากครั้งก่อนที่ได้มีโอกาสไปเป็นวิทยากรให้ อลังการณ์มาก

ภาคภาษาไทย

ภาคภาษาอังกฤษ English Version

แนวทางแก้ปัญหาให้ชาติเราตอนนี้ คุณเองก็ทำได้ เรามาทำกัน!

กับเหตุการณ์ของประเทศไทยที่เป็นแบบนี้ผมค่อนข้างมั่นใจว่า เราคนไทยทุกคน ทุกฝ่าย ไม่ว่าจะสีไหน เราอยากให้เหตุการณ์นี้มันผ่านไปซักที  และผมมั่นใจว่าทุกคนล้วนมีจิตใจดี เพียงแต่เราอาจจะมีอะไรบางมาเติม เสริมทำให้แนวความคิดในการร่วมกันแก้ปัญหาของเรามันเบี้ยว หรือเพี้ยนไปเป็นเรื่องอื่น เรื่องที่ต้องเอาชนะ

ผมยังเชื่อมั่นว่าหากเราพูดกันให้เข้าใจ เราจะแก้ปัญหากันได้ครับ แต่ตอนนี้เราดันไปโฟกัส พูด แชร์ สื่อสารกันผิดเรื่อง เราเอาแต่พูดเรื่องความเสียหาย ความตายของคน ความรุนแรง.. ซึ่งใช่ครับ มันเกิดขึ้น  แต่หากเรายังคงโฟกัสกันเรื่องนี้ เราคงแก้ปัญหาให้ชาติเรากันคงได้ยากแน่ๆ ครับ

การพูดแบบแย่ๆ (hate speech) รวมถึงการแชร์ การแบ่งปัน สิ่งเหล่านี้ออกไปในโลกออนไลน์ เช่นการกด ไลค์ (Like) การแชร์ (Share) การ  สิ่งเหล่านี้หลายๆ ครั้งมันเริ่มมาจากตัวเราเองทั้งนั้นครับ อาจจะดูเล็กน้อย แต่มันก่อให้เกิดอะไรต่อเนื่องได้ เช่น คุณแชร์ภาพหรือข้อความขออีกฝั่ง ที่แย่ๆ ทำร้ายจิตใจ ออกไปใน Social media ไปหาเพื่อนๆ คุณ ปรากฏว่าเพื่อนๆ ของคุณก็แชร์และส่งต่อออกไปอีก สิ่งเหล่านี้นมันเข้าไปสะสมในจิตใจของคนรับ ทีละเล็ก ทีละน้อยๆ ค่อยๆ สะสมจนกลายเป็นการเกลียดชังอย่างมาก และมันทำให้ การแบ่งฝักแบ่งฝ่ายของสังคมไทย ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ จนกลายเป็นปัญหาระหว่างเพื่อนฝูง ในบริษัท หรือแม้แต่ในครอบครัว

ใช่ครับตอนนี้ ต้องยอมรับว่าสังคมเราแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่ม แต่ผมเชื่อและมั่นใจว่าเราจะมีจุดบางจุดที่พวกเราสามารถเห็น และร่วมมือแก้ปัญหาร่วมกันได้ แต่เราต้องเปิดรับก่อน อย่าไปโบ้ยว่าให้ฝ่ายไหนเปิดรับก่อน อย่างเพิ่งไปคิดว่าพูดไปก็เท่านั้น ไอ้พวกนั้นมันคิดแบบนั้น แบบนู้นไปแล้ว ไม่มีทางไปเปลี่ยนใจมันได้หรอก มันโดนหลอก มันโดนล้างสมองไปแล้ว คนเรามีหลากรูปแบบ เราอาจจะไปเจอคนที่มีมุมมอง (Atitude) ที่เปิดเช่นเดียวกันได้ครับ  ผมอยากให้เราพูดถึงแนวทางแก้ปัญหา มากกว่า การไปตอกย้ำ สิ่งที่ไม่ดี  เราควรพูดถึง การแก้ปัญหา แก้ปัญหา และแก้ปัญหา (Solution Solution and Solution) และมาดูแนวทางปฏิบัติที่เราจะทำสร้างโอกาสดีๆ ให้กับสังคมไทยผ่านทางออนไลน์กันครับ

 

วิธีการแก้ปัญหาให้กับสังคมไทยผ่านทางออนไลน์

วิธีการแก้ปัญหาง่ายมากครับ ไม่ได้เริ่มจากใคร สีไหน กลุ่มไหน หรือรัฐบาลไหนก็ตาม แต่มันเริ่มจากตัวเราเองนี้แหละครับ เราลอง

1. หยุด พูด พิมพ์ ส่ง แชร์ (Share) ไลค์ (like) ข้อความ ข้อมูล แย่ๆ ทางโซเชี่ยลมีเดีย หรือคนรอบข้าง (เพราะมันคือต้นตอการสร้างความร้าวลึกให้เกิดขึ้นในสังคมไทย เพื่อนเรา ครอบครับ) การส่งต่อ บอกต่อ หรือ Copy Paste ลงไปใน Line Group Chat ในห้องหรือ Social Media ต่างๆ ให้เพื่อนๆ คนนู้น คนนี้ได้รู้ แล้วเราจะรู้สึกภูมิใจ ว่ากูหาข้อมูลเจ๋งๆ ใหม่ๆ อัพเดทๆ มาแชร์แบ่งปันเพื่อน ดูเหมือนการกระทำแบบนี้จะสร้างการดูดีให้กับตัวเรา แต่สิ่งที่มันเกิดมันดูจะทำให้คนที่รับข้อมูลเหล่านี้มากๆ มีอาการที่หดหู่ และจิตใจที่แย่ลง ยังเป็นการซ้ำและทำร้ายกับสังคม ซึ่งมันจะทำทุกอย่างมันยิ่งแย่ลงไปอีก หากเราเอาแต่แชร์แต่เรื่องแย่ๆ ให้กัน
2. สร้างมุมมองที่ดี (Attitude) สำคัญมากครับตอนนี้ จะแก้ปัญหาร่วมกัน ต้องสร้าง attitude ที่ดีต่อตัวเองก่อนไปสร้างให้กับคนอื่น จงสร้างมุมมอง (Attitude) ที่ดีต่อตัวเราเอง บอกว่าตัวเองว่าเราต้องโฟกัสกับการมองภาพรวมของสังคม มากกว่าของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เราคือคนไทย ยังไงเราก็คือคนชาติเดียวกัน ไม่มีใครอยากทำร้ายประเทศเราเอง หรือทำร้ายคนในชาติเราเองหรอก เพียงแต่เรามีมุมมองบางอย่างที่ไม่เข้าใจกันเท่านั้น
3. คิดดี พูดดี สร้าง และสื่อสารแต่เรื่องดีๆ แชร์ ส่งต่อ บอกต่อ ข้อความที่ดี ที่สร้างสรรค์ มีแนวทาง หรือวิธีการแก้ปัญหา การหาทางออก ในทางที่ดี ที่เป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย ต่อประเทศเรา  ข้อมูลดีๆ ข้อมูลที่มีประโยชน์ ข้อมูลที่สร้างสรรค์ ต่อสังคม เราควร แชร์ บอกต่อ ออกไปให้มากที่สุด เพื่อสร้างและกระตุ้นให้คนไทยมองเห็นว่า ในสถานการณ์แบบนี้ เรายังมีสิ่งดีๆ มีไอเดียใหม่ๆ มีโอกาสใหม่ๆ อีกด้วย โซเชี่ยลมีเดียจะเปิดโอกาสให้คนมีโอกาสดี ๆสามารถนำเสนอทางออกที่ดีออกไปได้ หากคุณมี คุณควรจะสื่อสารและแชร์มันออกไป เพราะมันอาจจะถูกนำไปเอาปฏิบัติจริงๆ ก็ได้ เราเห็นสิ่งสิ่งดีๆ ออนไลน์ถูกนำไปใช้จริงๆ ในหลายๆ ครั้ง
4. มีขอบเขตในการรับสื่อที่พูดแต่เรื่องการเมือง ไม่ใช่ติดตามมันทั้งวันทั้งคืน หยุดพักบ้าง เติมอะไรดีๆ เข้าตัวเองบ้าง เรื่องสร้างสรรค์ เรื่องสวยงาม เรื่องสนุก  เรื่องธรรมะ (หากเพื่อน หรือคนในครอบครัวกำลังตกและติดในอาการนี้ เราเองนั้นแหละ จงหาโอกาส พาเค้าออกมา)

หากเราทุกคนช่วยกันทำตามสิ่งที่ผมแนะนำมา ในโลกออนไลน์ เราจะมีแต่เรื่องดีๆ เรื่องที่มีประโยชน์ มีแนวทางออก แนวทางแก้ไขปัญหาที่หลากหลาย จากทุกคนๆ  ถึงแม้จะหลากสี หลากกลุ่ม แต่หากเรามองไปที่จุดๆ เดียวกันในแก้ปัญหาให้กับชาติเราตอนนี้ เราอาจจะมีแนวทางแก้ปัญหาที่เราอาจคาดไม่ถึงออกมาจากพวกเราคนไทยก็ได้ แต่เราต้องเริ่มเปลี่ยนวิธีการสื่อสาร แชร์ และแบ่งปันข้อมูลในโลกออนไลน์ของเราก่อน

ผมเชื่อว่า เราจะไปพูดยังไง ไปโน้มน้ามคนอื่นยังไง ก็เป็นเรื่องยาก แต่สิ่งที่เราทำได้ง่ายๆ คือ เริ่มต้นจากตัวเองก่อน สร้างมุมมองที่ดีที่ผมบอกมาตอนต้นกับตัวเอง
เพราะการเปลี่ยนแปลงประเทศ สังคม มันเริ่มจากหน่วยที่เล็กที่สุดก็คือ “คน” ดังนั้นหากพวกเราทุกๆ คนมีมุมมองทีดีต่อประเทศ ต่อสังคม และมองที่จะแก้ปัญหาไปร่วมกัน ไม่ไปซ้ำเติม ด่า แชร์ บอกต่อ ส่งต่อข้อความที่ไม่ดี  แต่เราหันมาพูดกันในสิ่งดีๆ สิ่งที่เราจะสามารถแก้ปัญหาให้กับสังคมเรา แชร์ต่อ บอกต่อ สิ่งเหล่านี้ ผมมั่นใจว่า เราจะสามารถช่วยทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้นได้ และทำให้ปัญหาของชาติเราดีขึ้นได้

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ ผมว่าคุณอาจจะเห็นด้วยกับสิ่งที่ผมบอกมา แต่สิ่งเหล่านี้จะไปสั่งใคร บอกให้ใครเปลี่ยน มันเป็นเรื่องยาก จงเริ่มต้นจากตัวเอง จำไว้ และขอย้ำ “ทุกอย่างเริ่มจากตัวเราครับ” หากเราทำไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าคนอื่นจะทำได้ จงทำ ทำ และทำครับ.!

** หากคิดว่าดี คิดว่ามีประโยชน์ ต่อคนไทยในช่วงเวลานี้ จงแชร์ต่อ บอกต่อ เพราะมันคือสิ่งที่จะทำให้คนไทย มีสติกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้
(เขียน ณ.วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2014 ช่วงที่ประเทศไทยกำลังอยู่ในช่วงสับสนทางสังคมและการเมือง)

วิเคราะห์กระแสท่านชัชชาติและแคมเปญสินค้าที่แกร่งที่สุดในปฐพี

วันก่อนผมเริ่มเห็นกระแส (Meme) ของท่านรัฐมนตร ชัชชาติ มาแรงมาก ในด้านความแข็งเแกร่ง ผมวิเคราะห์ดูแล้ว สาเหตุที่ท่านดังได้น่าจะมาจาก

1. ท่านเป็นคนติดดิน กันเองมากๆ กับทุกคนๆ
2. ท่านเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับการทำงาน
3. ใช้ Social Media (อย่าง Facebook) ทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มคนได้ทุกกลุ่ม โดยเฉพาะ วัยรุ่น
4. จุดแตกหักอยู่ตรง มีภาพของท่านไม่ใส่รองเท้า ถือถุงข้าวแกงจะไปตักบาตร ทำให้ดูเข้าถึงได้ง่าย และเป็นกันเอง ประกอบกับเหตุผลข้อบนๆ ทำให้กระแสของท่าน มาในแนวทางเดียวกับ “บระเจ้าจ๊อด” ที่ดังในกลุ่มวัยรุ่นก่อนหน้านี้
5. มันเลยคนกลุ่มแรกนำภาพท่านมาตัดต่อ และกระจายไปอย่างรวดเร็ว จนทำให้คนอื่นทำตามอย่างมาก

ผมเองเห็นกระแสนี้ เลยบอกน้องๆ ว่า พวกเราชาว TARAD.com จงเอาบ้างเถิด เพียง 1 วันหลังจากคุยกัน มันก็ออกมาเป็นแคมเปญ “ลดชัชๆ กับขบวนสินค้าที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี จาก TARAD.com” ต้องขอบคุณ โต้สและทีม CWD (Creative and Web Design) รวมถึง ECC และทุกฝ่าย ที่ทำให้แคมเปญนี้ขึ้นมาได้อย่างโดยไว และได้ใจมาก หลังจากแคมเปญนี้ออกไป ถือว่าได้กระแสเลยทีเดียว ฮ่าๆ ชอบๆๆ วันหลังเอาอีก

แคมเปญ ลดชัชๆ กับขบวนสินค้าที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี TARAD.com

TARAD ร่วมมือกับ Between

TARAD.com ได้ร่วมมือกับ App Private Social Network บนมือถืออย่าง Between ผมว่ามันน่าสนใจดีนะครับ

เทคโนโลยีกับการออกกำลังกาย ที่ผมใช้

ช่วงหลังพอเริ่มอายุมากขึ้นการออกกำลังกายจึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับร่างกาย และผมตั้งใจอย่างมาก ที่จะไม่เป็น “คนแก่ลงพุง” ดังนั้นจึงต้องคอยควบคุมการทานอาหาร และออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอ แต่จะออกกำลังกายให้สนุก มีประสิทธิภาพ เห็นข้อมูลออกมาชัดเจนว่า เราออกกำลังไปเท่าไร อย่างไร และได้ผลอย่างไร ผมมีคำแนะนำมาเล่าให้ฟังครับ