Pawoot Personal Blog & Think Tank

E-Business Man Daily Life and What I'm Thinking

Archive for May 2012

ประวัติของาน “จิบกาแฟคนทำเว็บ” ส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์วงการเว็บไซต์ไทยเลยนะ

leave a comment »

ความรู้ด้านอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยี เป็นสิ่งที่มาเร็วมาก หากเราไม่ได้เปิดหู-ตา ตัวเองให้ดี เราคงจะพลาดและเสียโอกาสการเรียนรู้ไปได้ ดังนั้นผู้ที่่สนใจ และทำงานทางด้านนี้จึงต้องเปิดตาให้กว้างอยู่ตลอดเวลา แต่การที่เราจะมานั่งติดตามอะไรต่างๆ มากมายทั้งโลกนี้คงเป็นไปไม่ได้ ผมว่าการแบ่งปันความรู้ที่เรามี คือหนทางที่ดีทีสุด

หากมองย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2000 ผมได้จัดงาน “จิบกาแฟคนทำเว็บครั้งที่ 1” ขึ้นมา เป้าหมายคือ อยากจะเจอ และร่วมพูดคุยกันในบรรดาคนทำเว็บไซต์ในสมัยนั้น เพราะเจอกันตามงานของ ชมรมไทยเว็บมาสเตอร์ (สมัยก่อนยังเป็นชมรมอยู่เลย ตอนนี้เป็นสมาคมแล้ว) คุยกันไม่จุใจ ผมจำหัวข้อไม่ได้ค่อยได้ว่างานนั้นผมจัดมาใช้หัวข้อว่าอะไร แต่น่าจะเป็นแนวๆ หารายได้ให้กับเว็บไซต์อะไรประมาณนั้น งานนั้นมีคนมาร่วมประมาณ 10-20 คน เช่น @jetboat26 (Pantip สมัยน้น), พี่นก DiaryHub (ไทยรัฐ), เอก (PPAPager), Yod.net, พีนัท (MrPalm.com), หย่ง (Pramool.com), วัตร (Maama.com) พี่นิด (Nokia) และอีกหลายๆ คน งานนั้นจัดขึ้นที่ สยามสแควร์ ถือเป็นงานพูดคุยกันธรรมดาๆ สนุกสนาน และเป็นงานที่ทำให้ คนทำเว็บรู้จักกันดีมากขึ้น และถือเป็นวันที่ผมทำให้ชีวิตผมเปลี่ยนไปเช่นกัน เพราะได้เจอพี่นิด Nokia วันนั้น แกก็ได้มีโอกาสชวนผมมาเข้าทำงานที่ Hutch ในปี 2002 และเป็นหัวหน้าที่ผมนับถืออย่างมาก เพราะทำให้ผมได้เรียนรู้อะไรอีกมากมาย

ภาพการพบกันครั้งแรกของคนทำเว็บเมืองไทยในงานจิบกาแฟคนทำเว็บ 1

งานจิบกาแฟครั้งที่ 1 ประสบความสำเร็จไปด้วยดี สนุกสนาน.. และหลังจากนั้นไม่นานมันก็เริ่มมีคร้งที่ 2, 3, 4, 5, 6 และกลายเป็นงานประจำของทางสมาคมผู้แลเว็บไทย ตอนหลังเปลี่ยนชื่อมาเป็น Webpresso ชื่อเท่ห์ขึ้นเยอะเลย (@macroart ปรับชื่อให้) และงานก็รันมาตลอดอย่างต่อเนื่องจนทุกวันนี้โดยสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย

ลองมาดูภาพและบรรยกาศการจัดงานจิบกาแฟคนทำเว็บครั้งที่ผ่านๆ มา ต้องบอกว่าสนุกมากๆ บางงานมีคนทำเว็บเกือบร้อยคนมาร่วมในงาน (สถานที่เกือบแตก) จำได้เลยตอนจัดครั้งที่สอง เจ้าของร้าน ด่าใหญ่เลยบอกว่าทำไมคนมาเยอะจัง ฮ่าๆ แต่มันก็ดีนะ สนุกดี จริงๆ

จริงๆ หลังจากครั้งที่ 5 ไปเรายังจัดอีกหลายๆ ครั้งนะ… แต่ขี้เกียรติหาข้อมูลแล้วอะ ว่าไปแล้วคนที่เคียงข้างผมจัดงาน จิบกาแฟคนทำเว็บตั้งแต่ครั้ง 1 จนถึงงานอะไรในปัจจุบันของผม คนนั้นคือ @jetboat26 เจอเอ็งทุกงานเลย น่ารักจริงๆ

เมื่อเริ่มกลับมามอง เริ่มสงสัยตัวเองว่าทำไมตัวเองชอบ จัดงาน และทำงานแบบนี้จังนะ..แต่ในอีกมุมนึง มันดีมากๆ เลยนะ มันทำให้คนในอุตสาหกรรมเว็บไซต์ได้พบกัน ได้แบ่งปันความรู้ระหว่างกัน.. และหากลองได้ดูภาพเก่าๆ ผมว่ามันมีประวัติศาสตร์ของวงการเว็บไซต์เมืองไทยอยู่ในงานทั้งหมดที่ผมได้จัดมานะ… น่าภูมิใจจริงๆ

Pawoot Marketing Talk

leave a comment »

ยังเยียนไม่เสี็จ….

ที่มาที่ไป ทำไมชื่อนี้
Google Analytics in Advance
การให้ความรู้กับคนไทยในอุตสาหกรรมอินเทอร์เน็ต จะทำให้”คน” มีการพัฒนาเมื่อ “คน” พัฒนา ธุรกิจและอุตสาหกรรมก็จะพัฒนา ประเทศก็จะพัฒนา… ดังนั้นการเสวนา สัมมนา พูดคุยในครั้งนี้ จึงมีส่วนช่วยพลักดัน “คนไทย” ก้าวไปข้างหน้า

โน้ตความคิดตัวเองบนเครื่องบิน 19/5/12

with 2 comments

มีคนเพียงไม่กี่ประเภทที่ผมมักไม่ค่อยถูกโฉลกเท่าไร ได้แก่.. คนเห็นแก่ตัว.. คนที่ชอบข่มคนอื่น.. คนที่บ้าอำนาจ… คนที่เอาเปรียบคนอื่น… ผมไม่สามารถร่วมงานกับคนเหล่านี้ได้เลย…. แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เราต้องระวังไม่ให้ตัวเราเอง เป็นคนลักษณะนี้เสียเอง…

คนเรายิ่งมีเวลากับตัวเองมากเท่าไร ทำให้เราได้คิด พินิจ วิเคราะห์อะไรหลายๆ อย่างที่ผ่านมา ทั้งในอดีต….. หรืออนาคต…. หลายอย่างที่สิ่งที่เราคิดไปมันดีและเจ๋งมากๆ ผมจึงมักจะพยายามจดจำ และรีบนำมันกลับมาเขียนลงไปใน blog. ของตนเอง เพื่อบันทึกและถ่ายทอดความคิดตัวเอง ออกมาเป็นตัวหนังสือ ซึ่งมันช่วยทำให้เรามองเห็นตัวเราเอง เข้าใจตัวเอง ได้ชัดเจนมากขึ้น เมื่อเรากลับมาอ่านอีกครั้ง และหากมันผ่านไปซัก 10 ปีข้างหน้า เรากลับมาอ่านสิ่งเหล่านี้อีกครั้ง เราจะเห็นพัฒนาการความคิดของตัวเราเองว่ามันจะพัฒนาขึ้น หรือลงกันแน่ ฮ่าๆ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะให้เป็นคือ. ผมอยากจะให้ลูกของผม (เป็ป ป้อน) หากเค้าได้มีโอกาสมาอ่านความคิดของพ่อเค้า ว่ากำลังคิดอะไร และทำอะไรอยู่ มันอาจจะทำให้เค้าเข้าใจว่าผมกำลังคิดอะไร ทำไมผมถึงทำสิ่งต่างๆ ซึ่งแน่นนอน ตัวหนังสือต่างๆ เหล่านี้จะสอนเค้าไปได้ตลอด ถึงแม้ว่าวันนึงผมอาจจะไม่อยู่ แต่สิ่งเหล่านี้จะเป็นสิ่งอยู่คู่กับเค้าไปตลอด ที่เค้าสามารถกลับเข้ามาอ่านมันได้ตลอดเวลา แนวความคิดต่างๆ ที่ผมคิด กระทำ มันมีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง มันมีที่มา ที่ไป… รวมถึงมันอาจจะไปกระตุ้นและเร้าให้คนอื่นๆ ที่อาจบังเอิญได้มีโอกาสเข้ามาอ่าน….

คนเราจะมีคุณค่า เมื่อเราสร้างคุณค่าให้แก่ตัวเราเอง คนที่อยู่รอบตัวเรา และสังคมของเรา หากปราศจากการเคารพตัวเราเอง คนรอบข้าง หรือสังคม เราจะเป็นที่ไม่มีคุณค่า…. ถึงแม้ว่าบางครั้ง เราอาจจะมองว่าตัวเราเองเจ๋งแค่ไหนก็ตาม

ทำไมวันนี้ผมเขียนอะไรแปลกๆ แบบนี้เนอะ

ชอบเพลงวง squiz animal และน้อง พลอย ณัฐชา อัลบั้ม 1 ล้านกิโลจัง แนวดนตรีแบบ Swedish Pop มันลื่นหูสำหรับผมจัง

เขียนบนไฟลท์ ไปเชียงใหม่ เพื่อไปสอนที่ มหาลัยเนชั่น ลำปาง 19/5/12

สร้างความรู้อัดเข้าไปให้คนไทยกับ TARAD Tech Talk #2

with one comment

เมื่อวันเสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2012 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นวันนึงที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม และหลายๆ คนที่เราได้มีโอกาสทำงาน TARAD Tech Talk #2 ขึ้นมาด้วยกัน ต้องเกริ่นกลับไปก่อนว่างาน TARAD Tech Talk คืองานอะไร? ผมมีความเชื่อส่วนตัวอย่างแรงกล้าว่า “ยิ่งเราให้คนอื่นมากเท่าไร เราจะยิ่งได้รับกลับมามากเท่านั้น” ทำให้ตอนปี 2011 ผมได้มีแนวความคิดที่อยากจะจัดงาน เผยแพร่เทคโนโลยีความรู้ของพวกเราชาว TARAD.com ที่เราได้คิดค้น ค้นคว้า และลงมือทำมาโดยตลอด…. โดยเป้าหมายคือ การแบ่งปันความรู้จากภายในองค์กรของเรา ออกไปให้กับสังคม และชาวนักพัฒนาคนไทย เพื่อที่จะทำให้ “คนไทยเราเก่งมากขึ้น และนำความรู้ที่พวกเรามาเผยแพร่ ไปต่อยอด กับงานที่เค้าทำเพื่อทำให้องค์กร หรืองานของเค้าพัฒนามากขึ้น ยิ่งหลายๆ องค์กรสามารถนำความรู้ที่พวกเรา มอบให้ไปพัฒนาให้องค์กรในประเทศไทยต่างเติบโตมากขึ้น นั้นหมายถึง เรากำลังจะทำให้ ประเทศของเราพัฒนาไปข้างหน้ามากขึ้นได้เช่นกัน” นี้คืออีกวิธีนึงของพวกเราชาว TARAD.com ที่เราเชื่อว่า เราจะเปลี่ยนแปลงประเทศนี้ ได้ด้วยมือของเรา ในวิธีที่เราสามารถทำได้ และไม่เกินกว่ากำลังของพวกเรา

ซึ่งในปีแรกที่เราจัด เราถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับการทำ IPV6 และ Cloud Computing ทีทีมงานเรา ค้นคว้ากันมานานเลยทีเดียว.. ในปี 2012 นี้ เราได้มีแนวคิดจะจัดงานนี้ขึ้นมาอีกครั้ง แต่เราอยากจะจัดให้ใหญ่กว่าเดิม และผมเองก็ลองสอบถามไปทาง Rakuten ประเทศญี่ปุ่นว่า จะส่งคนญี่ปุ่นมาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีใหม่ๆ กับนักพัฒนาไทยได้หรือไม่.! ซึ่งคำตอบคือ “ได้เล้ย” เมื่อได้คำตอบแบบนี้ผมเลยให้คุณอั๋น หัวหน้าด้าน Infrastructure ของเรา ลุยจัดการกับงานนี้อย่างเต็มตัว….

เราจัดงานขึ้นวันที่ เสาร์ที่ 12 พฤษภาคม 2012 โดยมีวิทยากจากประเทศญี่ปุ่นมา 3 คน มาพูดถึง เทคโนโลยีใหม่ อย่างการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และมีวิทยากรของไทยอย่าง @somsak และ @roofimon มาเล่าถึงเทคโนโลยี Mongo DB รวมถึงทีมงาน TARAD.com ตั้ม มาเล่าถึง MySQL Multi Master และไอซ์มาเล่าถึง IPV6 งานนี้ฟรีหมดทุกอย่าง ยังแจกเสื้อให้อีกต่างหาก…. และมีการถ่ายทอดสดในงานออกไปด้วย

งานนี้จบลงด้วยดี สิ่งนึงที่ผมและทีมงานเราเองทุกคนภูมิใจคือ เราได้สร้างสิ่งดีๆ และแบ่งปันความรู้ของพวกเรา ออกไปให้กับคนไทยด้วยกัน เพื่อพัฒนานักพัฒนาไทย ให้ก้าวไปอีกขึั้น บางครั้งความรู้บางอย่างที่เราได้เรียนรู้ จะนำให้เราก้าวไปสู่อีกขั้นนึงได้ทันที… ดังนั้นจงหาโอกาสที่จะแบ่งปันให้กับคนไทยด้วยกัน หากคุณมีโอกาส…. หากคุณไม่ลงมือทำ แล้วจะรอให้คนมาทำได้อย่างไร… นี้คืออีกขั้นนึงของการ ปฏิวัติ E-Commerce ประเทศไทย ที่เรามุ่งเน้นไปที่นักพัฒนา ที่จะทำให้เค้าเติบโตมากขึ้น เพราะเมื่อนักพัฒนา ต่างๆ เก่งมากขึ้น เราก็จะมีระบบและเทคโนโลยีดีๆ มาให้คนไทยได้ใช่้กัน ถึงแม้มันจะเป็นสิ่งที่เล็กๆ แต่เมื่อสิ่งเล้กๆ มาประกอบกันรวมกัน..มันก็สามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศไทยได้เช่นกันครับ

ขอบคุณ คุณอั๋น และทีมงานทุกๆ คน ที่ทำให้งานนี้ประสบความสำเร็จ ขอขอบคุณแทนคนไทยทุกๆ คน..ขอบคุณ ขอบคุณ และขอบคุณจริงๆ ครับ

;

ภาพนี้มีความแตกต่างอยู่ ลองหาดูว่ามันต่างกันตรงไหนครับ ฮ่าๆ

;

;

;

20120522-224640.jpg

ถีบตัวเองออกไปนอกประเทศ….

leave a comment »

วันนี้เป็นวันที่ดีใจวันนึง เพราะว่าผลงานที่เราได้ทำกันมาตลอดหลายเดือน (หรือปี) เริ่มออกสู่สายตาชาวโลก นอกเหนือจากประเทศไทยแล้ว ด้วยผลงาน ZocialRank.com ที่เราทำกันมานานในการจัดอันดับการใช้งาน Social Network ต่างๆ ของคนไทยเช่น Facebok, twitter, Foursquare, Youtube และล่าสุดคือ Instagram

เราได้ทำการสรุปข้อมูลการใช้งาน Instagram ในประเทศไทย สรุปมาโดย @thangman22 และผมก็นำมารวบรวมข้อมูล และให้น้องบิ๊ก เด็กฝึกงานที่ TARAD.com เป็นคนช่วยทำ Infographic ให้ หลังจากที่เราทำสรุป ข้อมูลการใช้งาน Instagram ของคนไทย ออกมาเป็นภาษาไทย  ผมก็ให้พี่เท็ด ช่วยแปลที่ผมเขียนออกมาเป็นภาษาอังกฤษ (ภาษอังกฤษพี่เท็ดดีมาก) แล้วผมก็นำมาเรียบเรียงใส่ข้อมูลเข้าไป เป็น บทความภาคภาษาอังกฤษ ซึ่งหลังจากที่เสร็จ ผมก็ได้ส่งข่าวนี้ออกไปให้กับทางเว็บไซต์ Techinasia.com และ Mashable.com ซึ่งได้ส่งออกไปตอนสายๆ  ใช้เวลาเพียงไม่นาน ทางเว็บ TechinAsia ก็ตอบกลับมา พร้อมยืนยันว่าจะนำข้อมูลที่เราสรุปเป็นภาษาอังกฤษไปลงที่เว็บเค้า ซึ่งเค้าก็ลงจริงๆ  ทำให้บริการของทาง ZocialRank.com ได้มีโ่อกาสเปิดไปสู่ตลาดต่างประเทศ ทำให้คนต่างประเทศรู้จักและเข้ามา นั้นหมายถึงโอกาสทางธุรกิจก็เปิดมากขึ้นด้วยเช่นกัน

ผมมองดูแล้วมันเป็นเรื่องง่าย และอยากทำมานาน วันนี้ได้ทำออกมาจริงๆ แล้วก็มันสำเร็จไประดับนึง ก็ดีใจ ผมอยากจะบอกว่า นักพัฒนาไทยหลายคนพัมนา Product หรือบริการต่างๆ ดีมาก แต่ยังขาดการตลาดและการ PR สินค้าหรือบริการ ดังนั้นหากเรารู้จักการ PR และการทำการตลาดให้กับสินค้าหรือบริการของคุณ มันจะช่วยทำให้คุณสร้างโอกาสและความได้เปรียบอย่างมาก โดยเฉพาะกับการ เปิดโอกาสให้กับตัวเอง ออกสู่ตลาดต่างประเทศ โดยการแปลงข้อมูล สินค้าหรือบริการของคุณเป็นภาษาอังกฤษ รวมถึงรู้จักการ PR และประชาสัมพันธ์ตัวเองในเวลาระดับโลก ผมว่านี้คือจำเป็นสำหรับ นักธุรกิจและนักพัฒนายุคใหม่ เพราะไม่มันทำให้ตังเองคุณเติบโตเท่านั้น มันจะยังช่วยทำให้เป็นตัวอย่าง แต่ผู้ประกอบการคนอื่นๆ สามารถดำเนินตาม นั้นหมายถึงทั้งอุตสาหกรรมก็จะพัฒนาไปข้างหน้า หากทุกคนทำในสิ่งดีๆ คล้ายๆ กัน

ลองดูสิ ผมว่ามัน Work ดีนะ

Written by pawoot

2012/05/11 at 1:34 AM

วิธีการสร้างโชคให้กับตัวเอง

with one comment

วันก่อนมีคนมาสัมภาษณ์และถามว่า “พรสวรรค์หรือโชค คือสิ่งทีี่ทำให้ชีวิตประสพความสำเร็จ?”

ผมตอบไปว่า มันเริ่มต้นจาก “ความรักความชอบ” หากคุณเริ่มต้นจากสิ่งนี้ แล้วคุณทำแล้ว คุณรู้สึก “สนุก” แล้วคุณจะรู้สึกว่า ตัวคุณไม่ได้ทำงานเลย เคยมีคนบอกว่า “หากคุณได้ทำงานในสิ่งที่คุณรัก ชาตินี้คุณจะไม่ได้ทำงานอีกแล้ว”  เพราะมันคือสิ่งที่คุณสนุกกับมัน ตื่นเต้นไปกับทุกสิ่งที่คุณทำไปในแต่ละวััน เมื่อคุณสนุก “ความขยัน ความตั้งใจ” มันก็จะเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว คุณจะสามารถทำงานได้ ทั้งวันโดยที่คุณไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย และ

เมื่อคุณ “ลงมือทำมัน”และทำ “อย่างต่อเนื่อง” ก็จะทำให้เกิด “โอกาส” หรือบางคนเรียกว่า “โชค” มันก็จะเกิดขึ้นตามมา…..

แต่หากคุณไม่ลงมือทำ เพราะอาจจะทำแล้ว มันไม่สนุก มันไม่มันส์ คำว่าโอกาส หรือโชค มันคงมาไม่วิ่งเข้ามาหาคุณหรอก….

แล้วคนที่พบว่าตัวเอง ยังไม่รู้สึกสนุกกับงานปัจจุบัน หรืองานที่ทำอยู่ ผมอยากจะบอกว่างานมันสนุกหรือไม่สนุก มันอยู่ที่มุมมองตัวเราเองทั้งนั้น… บางคนมองว่างานแต่ละวันของเราน่าเบื่อ… ผมอยากให้คุณลองเปลี่ยนมุมมองในการทำงานแต่วัน ลองคิดและทำงานเดียวกันในมุมมองใหม่ๆ  ลองทำอะไรที่มันแปลกๆ ออกไป ซึ่งมันอาจจะได้ผลลัพย์ออกมาเหมือนเดิม หรืออาจจะดีกว่า แต่อาจจะทำให้เราสนุกกับงานมากขึ้น ลองตั้งเป้าให้กับการทำงานแต่ะวันของตัวเอง ที่ท้าทายและแปลกออกไป มันก็จะทำให้การทำงานแต่ละวันของเรา มีอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ขึ้นมาได้อย่างแน่นอน…..

ต่อให้คุณเปลี่ยนงานไปร้อยงาน แต่ตราบใดคุณยังไม่เปลี่ยนมุมมอง (Attitude) ของตัวเองได้ งานคุณก็จะยังคงน่าเบื่อต่อไป…..

ง่ายๆ …เปลี่ยนที่ตัวเราเอง เปลี่ยนวิธีคิดของตัวเราเอง…. คือสิ่งที่พูดง่าย แต่ทำง่ายได้เช่นกัน (อย่าพูดคำว่ายาก เพราะมันจะยากขึ้นมาทันที)

Written by pawoot

2012/05/11 at 1:17 AM

ปากหมากับการสร้างพันธะและแรงพลักตัวเองก้าวไปข้างหน้า

with one comment

ผมว่ามัน “ใช่”

การที่เราปากหมาประกาศเจตนารมย์อันแรงกล้าของเราออกไปให้คนอื่นได้รู้ มันคือการสร้างพันธะสัญญาของเรากับคนรอบข้างว่าเราจะต้องทำสิ่งนั้นให้ได้ มันจะเป็นแรงพลักดันตัวเอง และทำให้เรามีเป้าหมายชัดเจนในการทำงาน. ดีกว่าทำงานไปไม่มีเป้าหมาย ไม่ท้าทาย และสุดท้าย มันก็จะไม่สำเร็จ

เหมือนที่ผมประกาศว่า “ผมจะปฏิวัติวงการ E-Commerce ประเทศไทย” มันคือ คำมั่นที่ผมประกาศออกมาให้คนอื่นๆ ได้รู้กันโดยทั่ว ผมย้ำ และผมเน้นเรื่องนี้กับคนอื่นๆ มาโดยตลอด มันกลับเป็นสิ่งที่มันช่วยตอกย้ำผม ทำให้ผมมีเป้าหมายในการทำงานในแต่ละวัน ว่าผมจะทำงานไปเพื่ออะไร ผมไม่ทำงานเพื่อบริษัทเพียงอย่างเดียว ผมทำงานเพื่อให้ร้านค้าที่มาเปิดกับ TARAD.com เค้าสามารถขายสินค้าได้ เมื่อเค้าขายสินค้าได้ ครอบครัวเค้ามีกินมีใช้  เมื่อผมสามารถทำให้ คนไทยจำนวนมากสามารถนำ E-Commerce มาใช้สร้างธุรกิจให้กับตัวเอง  นั่นหมายถึงคนจำนวนมาสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้ให้เกิดประโยชน์มากขึ้น สร้างรายได้ให้กับเค้ามากขึ้น ถึงแม้ว่าคนเหล่านั้นจะอยู่ต่างจังหวัดที่ไกลออกไป…  ผมและพวกเราชาว TARAD.com สามารถช่วยเค้าได้ นี้คือสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผม มันกลับมาเป็นแรงและพลังที่ทำให้ผมยึดมั่นอย่างมาก ว่าเราจะต้องเปลี่ยนแปลงการค้า-การขายสินค้าทางออนไลน์ (E-Commerce) เมืองไทยให้จงได้….

ผมทำอยู่…. แล้วคุณละ? มีเป้าหมายที่อยากประกาศให้คนอื่นๆ รู้แบบผมบ้างไหม?

 

Written by pawoot

2012/05/11 at 12:59 AM