การแพ้อาหาร Food Intolerance ของผม

ผมสังเกตุมานานแล้วว่า ทำไมชอบท้องอืด บ่อยๆ เวลาทานอาหารบางประเภทเข้าไป เลยไปตรวจดูว่าผมแพ้อาหารประเภทไหนบ้าง โดยวิธีการตรวจเลือด ซึ่งใช้เวลาไม่ถึงสัปดาห์ผลก็ออกมา พบแล้วน่าตกใจมาก
ผมแพ้อาหารตามนี้ (เรียงตามความหนักหน่วง)

การตรวจรอบสอง (7 กค. 2022)

การตรวจรอบ 2 พบกว่าการแพ้มากขึ้นกว่าเดิม… อารายเนี่ยยย.. แต่หลายๆ ก็คล้ายเดิม

การตรวจรอบแรก (22 ธค 2021)

1. เนย และ นม (วัว, แพะ, แกะ, ถั่วเหลือง) – แทบไม่เหลือนมอะไรให้กูกินได้เลย
2. ถั่วประเภทต่างๆ (ถั่วลันเตา, ถั่วหิมพานต์, ถั่วแดง, ถั่วเหลือ, พิตาชิโอ, อัลมอน, ถั่วลูกไก่, เมล็ดทานตะวัน) เดียวจะไปตรวจว่าตัวเองเป็น ภาวะ G6PD หรือเปล่า? เพราะลิงเป็ปก็เป็นตั้งแต่เกิด
3. ไข่ขาว < ลาก่อนไข่ดาว
4. ผัก ผลไม้บางประเภท ข้าวโพด, แปะก๊วย, แครนเบอรี่, มะพร้าว, ส้ม, พลัม (ลูกท้อ) < เหล้าบ๊วยก็อด
5. แป้งสาลี, แป้งบาร์เลย์ ยีสต์ในขนมปัง < ต้องทานขนมปังกูลเตนฟรีล่ะ
6. โคล่าทั้งหลาย เพราะมีส่วนผมของ ถั่วโคล่า
7. เบียร์​ (ยีสต์ในเบียร์) วิสกี้ < อันนี้หนักมาก… ต้องหันไปดื่มไวน์ กับโซจูแทน

พอมาสังเกตุดีๆ ไอ้พวกอาหารที่ผมแพ้ ส่วนใหญ่จะเป็นส่วนผสมของอาหารฝรั่งทั้งนั้นเลยนะครับ … (หรือการตรวจพวกนี้มาจากต่างประเทศ เลยมีแต่ผลทดสอบกับอาหารที่ฝรั่งมี เลยไม่มีอาหารไทย เช่น น้ำพริก, กระปิ, ผักชี เป็นต้น ฮ่าๆ)

ซึ่งผมจะต้องงดทานอาหารพวกนี้เริ่มที่ 3 เดือน หรือถึง 6 เดือน และต้องไปตรวจอีกครั้งหากดีขึ้น ก็อาจจะสามารถกลับมาทานอาหารบางชนิดได้ (ขึ้นกับผลในตอนนั้น)ในระหว่างนี้ ต้องขอทำใจหักห้ามไม่ทานอาหารอะไรที่จะแพ้ต่อร่างกายนะครับ

สอบผ่านการเป็น Angel Investor เต็มตัว

ผมสอบถ่าCertificate เป็นนักลงทุน Angel Investor ผ่านหลักสูตร Qualified Angle Investor โดย World Business Angel Investment Forum Business School (WBAF) จาก UK

หลักสูตรนี้นำมาโดยทาง สวทช. ขอบคุณที่เปิดโอกาสให้เข้าเรียนด้วยนะครับ

แอบดูเทคนิคการทำ Startup ให้เติบโต (Startup Growth Hack)

Dietz.asia ถือเป็นบริษัท Startup สาย Health Tech อายุเพียงแค่ปีกว่าๆ ที่กำลังเดินหน้าเติบโตอย่างเต็มที่ โดยขวัญ Phongchai Petsanghan CEO โคตรตั้งใจและ โฟกัสกับธุรกิจมาก หากคนทำธุรกิจ เจอ Business Model ที่ดี แตกต่าง ไม่เหมือนใคร และยังไม่มีใครทำ เราต้องรีบโต.

1. Speed ถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการที่เร่งการเติบโตของตัวเอง เพื่อให้ทิ้งคู่แข่ง ที่ยังไม่เข้ามาในตลาด เริ่งขยายตลาดตัวเองออกไปให้เร็วที่สุด .

2. ขยัน ไม่หยุดนิ่ง ไม่หยุดคิด มีบริการใหม่ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง ปรับเปลี่ยนไปพร้อมกับตลาดที่เปลี่ยนไปตลอดเวลา ช่วง COVID Dietz เติบโตแบบกระจุยกระจาย.

3. สร้างความร่วมกับ Partner ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา ลองดู Partner ของ Dietz สิมีเพียบเลย ทำให้มีโมเดลทางธุรกิจใหม่ๆ ออกมาเพียบ เช่น ตู้ขายยาออนไลน์กับ Duck Group, การรุกเข้าสู่ตลาดองค์กรกับธิตาราม และอีกเพียบ….

4. เข้าร่วมกับ Industry Community Dietz ได้เข้าร่วมกับสมาคม, ชมรม งานกับภาครัฐต่างๆ ในการสร้างและกำหนด Standard ของอุตสาหกรรม.

5. สร้าง Brand ให้รู้จักอย่างการออกสื่อ งาน และการทำให้เกิดข่าว PR รวมถือการสื่อสารการทำงานของตัวเองผ่าน Social Media โดยตลอด เพื่อยึดความเป็น เบอร์ 1 และ 1st Mover ใน Position นั้น เมื่อคนรู้จักเรา ว่าเราเป็นเบอร์ต้นๆ ในอุตสหกรรมนั้น เราก็จะเริ่มที่เป็นที่รู้จักและ take off ออกไปได้ง่ายมากขึ้นล่ะครับ ..

ทั้งหมดนี้เป็น “แค่เป็นบางส่วนของ Key Success Factors” หรือ KSF ของ Dietz.asia Startup ด้าน Health Tech สัญชาติไทยครับ บริษัทในพอร์ตของผม ที่เป็นตัวอย่างดีที่หลายๆ บริษัท Startup สามารถศึกษาและดูเป็นตัวอย่างได้ครับ ..

ใครทำ Startup อยู่ลองดูการเติบโตของ Dietz ได้ครับ จะเห็นได้ว่าบริษัท Startup ที่ดีและสร้างการเติบโตได้อย่างไร https://www.facebook.com/phongchai.petsanghan/posts/10158275673041696

แนวความคิด และเทคนิคการลงทุนของผม

เพิ่งได้มานั่งดูคลิปที่ตัวเองให้สัมภาษณ์กับ Jitta Wealth กับคุณปอม ในบรรยากาศที่โคตรกันเองที่บ้าน และยังไม่ได้อาบน้ำด้วย ฮ่าๆๆ

ถือว่าเป็นคลิปที่ตัวเองได้พูดรูปแบบ แนวคิด การลงทุนของผมไว้ได้ครบถ้วนเลยทีเดียว

รวมไปถึงบางคำถามที่ผมบอกว่า หากผมตายไปแล้ว จะเอาเงินไปไว้ไหน?

และจังหวะของน้องไก่ (เจ้านวล) ที่มีส่วนร่วมกับการสัมภาษณ์ได้น่ารักและลงตัว

ชอบรูปแบบการถ่ายและตัดต่อของทีมบอย Daewoojaa Nawee Dangwichai จังหวะตัดและภาพนุ่มนวลมาก

หากมีโอกาส ลองรับชมกันนะครับ คุณอาจจะได้เรียนรู้ เทคนิคการลงทุนด้าน Startup และเทคนิคอื่นๆ ของผมครับ

คิดต่าง ทำต่าง ผลลัพธ์ก็ออกมาต่าง

ใครผ่านไปเมืองกาญจน์ ผ่านป้ายนี้ เห็นแล้วทักมาหน่อยนะครับ

เราลองอะไรกวนๆ สร้างความแตกต่าง ให้คนสนใจกว่าป้ายเดิมๆ เป็นการกระตุกให้คนที่เห็น เอ๊ะใจ และสนใจว่า ป้ายบ้าอะไร ทำไมมันกลับหัว..

และผมเชื่อว่าเค้าจะพยายามอ่านมัน..!

แค่นี้แหละที่เราต้องการ ให้คน Interact กับแบรนด์ของเรา “โล้วเฮงหมง” ในวิถีใหม่ ที่มีความขี้เล่น สนุกสนาน

ขอบคุณน้องชาย Witan Pongvitayapanu ที่เชื่อในความบ้าของพี่ชายคนนี้ ฮ่าๆๆ เดียวมาดูผลลัพธ์กัน

*** ห้ามไปบอกแม่พวกผมเด็ดขาด… ไม่งั้น หึๆๆ

มาดูผลลัพธ์กันนะครับ มีคนพูดถึงด้วย มี comment เยอะเลยครับที่ https://www.facebook.com/groups/muangkan1/permalink/1538463809869140/?sfnsn=mo&ref=share

จงสร้างโอกาสให้เด็กๆ ได้เล่นกับพี่ๆ น้องๆ ญาติๆ มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.!

ประเพณีการกลับมาไหว้บรรพบุรุษ ส่วนตัวผมมองว่าเป็นกุศโลบาย ทำให้ญาติพี่น้อง ได้มาพบกัน พูดคุยกัน สื่อสารกัน เกิดความสัมพันธ์กัน

ที่บ้านผม เวลามีงานประเพณี หรือวันไหว้ต่างๆ ญาติพี่น้อง จะมาเจอกัน นั่งทานข้าว ร่วมพูดคุยกัน ส่วนเด็กๆ ก็จะได้เล่นกัน พบปะกัน เป็นภาพที่ผมคุ้นตาแต่เด็กๆ

ซึ่งผมมักจะพาลูกๆ กลับไปที่บ้านในช่วงกิจกรรมดังกล่าว เพื่อให้เด็กๆ ได้มีโอกาสไปเจอกับ พี่ๆ น้องๆ ในอายุรุ่นราวคราวเดียวกับเค้า


เพราะเมื่อเค้าสนิทสนมกับพี่ๆ น้องๆ ในรุ่นราวคราวเดียวกันตั้งแต่เด็กๆ เมื่อเค้าเติบโตไป เค้ารู้จักกัน มีอะไรก็จะช่วยเหลือกัน เพราะการเชื่อมโยงในช่วงเด็กๆ