29/11/05 – 2/12/05 ก่อตั้งสมาคม E-Commerce – บุกรัฐสภา

29/11/05 – 2/12/05 ก่อตั้งสมาคม E-Commerce – บุกรัฐสภา

อาทิตย์นี้ มีโอกาสดีๆ มากมาย บรรยกาศการประชุมแบบหูดับตับไหม้เริ่มกลับมาอบอวลอีกแล้วในอาทิตย์นี้.. อาทิตย์นี้ เป็นวันประวัติศาสตร์ที่มีการก่อตั้งสมาคม e-Commerce ไทยครับ และผมได้มีโอกาสไป ประชุมที่ รัฐสภาด้วยครับ….

29-11-05 V4King

วันนี้ตอนเย็นผมมีนัดประชุมกับเครือข่าย “จิตอาษา” ซึ่งเป็นกลุ่มคณะทำงานภายใต้ สสส. (

ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นการร่วมมือกันระหว่าง เครือข่ายจิตอาษากับสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย ในการช่วยประชาสัมพันธ์โครงการที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม 05 ในวันนั้นก็มีมีเว็บไซต์ไปร่วมคุยกันหลายเว็บ Dek-d.com, Mthai.com, Narak.com เป็นต้น ซึ่งจะเข้าร่วมช่วยโครงการนี้ด้วย

1/12/05 จัดตั้งสมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย

วันนี้ช่วงบ่ายมีนัดกับทาง คณะกรรมการของชมรม E-Commerce จะไปลงทะเบียนก่อตั้ง “สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ไทย” ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยมี พี่วรวุฒิ (officemat.com) พี่ฉัตรชัย ( อดีตHotelthailand.com) คุณอั๋น (ผู้ช่วยพี่วรวุฒิ) และน้องหยก (ผู้ประสานงานชมรม) ไปด้วยกันในวันนั้น แต่เอกสารเรายังไม่สมบูรณ์เท่าไร เลยต้องไปขอยืมสถานที่ของ กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ที่อยู่ภายในกรมพัฒนาธุรกิจ เป็นที่จัดเตรียมเอกสาร ให้สมบูรณ์ ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านและท่าน ผอ.วุฒิไกรด้วยครับ สำหรับการต้อนรับที่อบอ่น แต่พอเตรียมเอกสารเสร็จก็พบว่ายังขาดเอกสารบางส่วนเลยต้อง ฝากให้คุณอั๋น ช่วยดำเนินการต่อ แต่วันนั้นพวกเราได้มีโอกาสคุยกับท่าน ผอ. หลายๆเรื่อง และคิดว่าทาง สมาคม e-Commerce กับทางกรมพัฒนาธุรกิจ จะมีหลายๆ โครงการที่สามารถทำร่วมกันได้อย่างดี เช่น โครงการ Trust Mark หรือ การร้องเรียนด้านการค้าออนไลน์  เดียวจะมีการนัดกลับมาคุยในรายละเอียดกันอีกครั้งครับ

ช่วยค่ำ ผมมีนัดสัมภาษณ์กับคุณ กิตติพล (คอลัมนิสต์นิตยสาร Windows Magazine) ที่เซนทรัลลาดพร้าว คุยเรื่องทั่วไปเกี่ยวกับเว็บไซต์ ThaiSecondhand.com และ TARAD.com แต่คุยไปคุยมา พบว่าคุณกิตติพล ได้เคยใช้ ThaiSecondhand.com ขายของได้เงินเป็นแสนๆ บาทเลยทีเดียว.. ไม่น่าเชื่อเลย สัมภาษณ์เสร็จก็แวะลงไปซื้อการ์ตูนด้านล่าง และไปซื้อ Harry Porter เล่ม 5 (เพิ่งจะได้ซื้อ) เพื่อเตรียมไปอ่านที่เมืองจีน.. อ๋อ ผมจะมี Trip ไปจีน 12 วัน นานเลยทีเดียววว…

หลังจากนั้นผมมีนัดกับ เหล่าๆ พี่ๆ น้องๆ กรรมการสมาคมผู้ดูแลเว็บไทย โดยเรานัดกันไป คาราโอเกะกันคร้าบบบ ที่ร้าน Urban สาธร ก็มี กอลฟ์ (ThaiSharp.net), เจส (แฟนกอลฟ์), กร (Storythai.com), พี่หมวย, บี (Mono2u.com), อุ๋ นั่งแหกปากกันอยู่นานจนเมื่อย สนุกดีครับ นานๆ จะได้มีโอกาสเจอพี่ๆ น้อง ๆสมาคมในโอกาสอื่นๆ นอกเหนือจากเรื่องงาน

ปล. เขียนเพิ่มวันที่ 16/4/10  วันนี้ถือว่าเป็นวันนึงของประวัติศาสตร์วงการเว็บไซต์เมืองไทยเลย เป็นวันก่อตั้ง “สมาคมผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์” ขึ้นในเมืองไทย หลังจากที่ได้รวมตัวก่อตั้งเป็น “ชมรม” มาก่อนหน้านี้.!

2/12/05

วันนี้ตอนเช้ามีนัดกับ คณะอนุกรรมาธิการ ที่รัฐสภา (เกิดมาเพิ่งเคยเข้ารัฐสภา) ประชุมเรื่อง การพิจารณาศึกษาหามาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเกมส์คอมฯ (ออนไลน์) ในด้านการประกาศ ขาย Bot , Server เถือน

ซึ่งก็มีเว็บไซต์ http://www.pantip.com, http://www.TARAD.com, http://www.ThaiSeconhand.com, http://www.Pramool.com  มาเข้าร่วมประชุม สรุปคร่าว ๆ จากที่ประชุม ทางคณะอนุกรรมาธิการ ขอความร่วมมือ เว็บไซต์ในการช่วยกัน ลบประกาศที่เกี่ยวกับ

– การขาย Bot เกมส์ต่างๆ

– การประกาศให้บริการ Server เกมส์เถื่อน

และได้มีการพูดถึง การขาย M หรือ items ต่างๆ ซึ่งตอนนี้ทางคณะฯ ให้ความเห็นว่า น่าจะลดลง หากพวก bot ต่างๆ มีการใช้ลดลงเพราะตอนนี้ ทางคณะฯ กำลังให้ความสนใจด้านเกมส์ออนไลน์ เพราะส่งผลเสียต่อหลายๆ ด้านของสังคม

ซึ่งงทางคณะฯ อยากขอความร่วมมือ ทางสมาคมในการร่วมรณรงค์ แจ้งเว็บไซต์เกมส์ หรือเว็บบอร์ดต่างๆ ในการช่วยกัน ลบและป้องกัน กระทู้หรือข้อมูลเหล่านั้น แ ละผมได้มีโอกาสคุยในเรือ่ง พรบ. ร่างความผิดทางคอมเตอร์ ซึ่งผมเองได้อยู่ในคณะทำงานกลุ่มจัดทำร่างคู่ขนานของ พรบ. ตัวนี้ ซึ่งวันนี้ผมได้เจอเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับ เรื่องนี้โดยตรง โดยได้ผมได้ขอ นัดทางทีมคณะ อนุกรรมาธิการด้านกฏหมาย เข้า present และพูดคุย อธิบาย ในตัวร่าง คู่ขนาน พรบ ที่ทางคณะทำงานได้จัดทำขึ้นมา ในวันพฤหัสที่ 8 ธค 48 ที่รัฐสภา ซึ่งเดียวคงต้องยกทีมเข้าไปประชุมกันอีกที…

ในวันนี้ผมได้มีโอกาสเสนอเรื่องการติดตาม การโกงทางอินเทอร์เน็ตที่ เว็บไซต์และเพื่อนๆ รวมถึงผู้เสียหาย รับมือกันเองมาโดยตลอด โดยทางตำรวจหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ได้เข้ามาดูในส่วนนี้ ทางคณะฯ ได้แจ้งมาให้เสนอเรื่องเข้ามา จะนำเรื่องประสานกับกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ มาคอยดูกันต่อไปว่าจะเป็นยังไงนะครับ

ตอนบ่ายผมมีประชุมของ สภาวิชาชีพผู้ดูแลเว็บไทย และ สมาคมผู้ดูแลเว็บไทยที่ อสมท. ซึ่งก็มีการตกลงและวางแผนวันที่จะมีการจัดการเลือกตั้งคณะกรรมการสภาวิชาชีพ ขึ้นใหม่และกำหนดขอบเขตงานกันคร่าวๆ โดยมีท่าน รองฯ ชิตณรงค์ รองกรรมการบริหารของช่อง 9 อสมท. ผู้ซึ่งเป็นประธานสภาฯ และเจ้าของสถานที่ เป็นประธานการประชุมครับ เสร็จจากนั้นผมแวะเอารถไปแวะซ่อมที่อู่ อยู่รถผมโดนใครชนก็ไม่รู้ ซวยชมัด ด้านหน้ายู่เข้ามา ก็ดีแวะเอารถมาทิ้งเอาไว้ กลับมาจากจีน จะได้มาเอารถออกไปเลย… เสร็จแล้วก็แวะกลับมาที่ office มีนัดกับ Price Water House Cooper ที่มาคุยเรื่องระบบบัญชีของบริษัท เสร็จแล้วก็มีนัดประชุม Head ที่บริษัทต่อ เพื่อเตรียมตัวและกระจายงานในช่วงที่ผมไม่อยู่ (หนีไปเที่ยวจีน)  เดียวพรุ่งนี้ต้องไปจีนแล้ว.. กระเป๋ายังไม่ได้เก็บเลยยย เค้าบอกว่าอากาศมันหนาวมากช่วงนี้ ติดลบ… เอาละสิตู…. เดียวก็รู้ว่าจะเป็นยังไง…..

ปล. เขียนเพิ่มวันที่ 16/4/10 สาเหตุที่ Price Water house cooper มาบริษัทผม เพราะเค้ามาทำ Accounting Deal Diligent เพราะช่วงนั้น บริษัท ตลาด ดอท คอม กำลังจะมีการ่วมทุนกับทาง บริษัท TeleInfo Media หรือ บริษัทที่ทำสมุดหน้าเหลืองยังไงครับ แต่ deal นี้ไม่เกิด เพราะผู้ถือหุ้นเดิมส่วนหนึ่งของ ตลาดดอทคอม ตอนนั้นไม่ขาย ก็คือบริษัท โมโนเทคโนโลยี เจ้าของ http://www.mthai.com Deal เลยล้มไม่เป็นท่าเลย.. แต่ก็ถือว่าดีครับ เพราะทำให้หลังจากนั้น พวกผมชาว TARAD.com มีมุมมองอะไรใหม่ๆ ใหญ่ๆ โตๆ เพิ่มมากขึ้น

26-27/11/05 วันที่โชคดีวันนึงเลย – จิบกาแฟคนทำเว็บ

เสาร์ 26/11/05

วันนี้เป็นวันแสนชุลมุน วุ่นจริงๆ ครับ ตอนบ่ายที่บริษัทผมมีไปออกบู้ทที่ ม.กรุงเทพฯ ผมแวะไปดูงาน จริงๆผมต้องขึ้นพูดด้วย แต่เนื่องจากติดงาน จิบกาแฟ e-Commerce ที่ชมรม e-Commerce ได้จัดงานนี้ขึ้นมา ซึ่งผมและทีมงานของชมรมฯ  ต้องไปเตรียมงานนี้ ซึ่งไม่น่าเชื่อครับว่าจะมีคนสนใจมาร่วมงานกันได้ล้นหลามขนาดนี้ 30 กว่าคน มาล้นห้องที่ ร้านบ้านไร่กาแฟ เอกมัยเลยครับ ต้องบอกว่างานนี้ใช้เวลา PR งานแค่ 2 วัน ลงในเว็บบอร์ดและส่งเมล์หาคนเฉพาะเท่านั้น นับว่าได้ผลมาก ๆ และเนื้อหาและการพูดคุยในงานวันนั้นก็ เยี่ยมมากๆ ความรู้ ประสพการณ์ดีๆ แลกเปลี่ยนกันอย่างไม่มีหวงกันเลย

ไปดูภาพบรรยกาศงานได้ที่

ช่วงค่ำ ผมต้องไปงานเลี้ยงรุ่นของ สถาปัตย์รังสิตต่อที่ร้านเหล้าแถว คลองประปาชื่อร้านสุขสโมสร ร้านนี้เพื่อนๆ สถาปัตย์ผมหลายๆ คนมักไปประจำๆ บรรยกาศร้านดีมาก เป็นบ้านคนทำเป็นร้าน อยู่ในย่านที่พักอาศัย แถวๆ หมู่บ้านปูนซิเมนต์ครับ… เพื่อนๆ หลายๆ คนไม่ได้เจอกันมานานครับ งานนี้มากัน 30 กว่าคน จริงๆ งานนี้มี concept ครับคือ ต้องแต่งตัวเป็น ยูนิฟอร์มมาครับ ผมกะแต่งตัวเป็น ห้ามนุษย์ไฟฟ้า ซึ่งผมจะเป็นสีชมพู่ แต่บังเอิญหาเสื้อผ้าไม่ได้ และต้องติดงานตอนบ่ายเลยเตรียมเสื้อผ้าแต่งเป็นนักเรียน กางเกงขาสั้น พร้อมรองเท้าลูกเสือมา แต่พอมาถึง ดันลืมเสื้อผ้าไว้ที่บ้าน ก็เลยอดแต่งมาร่วมงาน ซึ่งเป็นไปตามคาด เพื่อนๆ ส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีใครแต่งมากัน แต่ก็มีบางส่วนที่แต่งมา ได้แก่ เอ-เปา แต่งเป็น คนหื่นกาม, ไอ้พจน์ แต่งเป็นชุดอยู่บ้าน (เสื้อยืดกางเกงขาสั้น), ไอ้กาย ชุดนักเรียน, ไอ้เอ-ไพเศษ แต่งชุดไทยลงมาจากเหนือเลย, ไอ้เอก-ประธาน แต่งเป็นวินมอเตอร์ไซค์ พร้อมชุดนักบอล พวกนี้มันเยี่ยมจริงๆ  บรรยกาศสนุกจริงๆ นานๆ เจอกันทีก็ขำๆ ดีเหมือนกันแหะ

อาทิตย์ 27-11-05

วันนี้ Family Day ครับ พ่อแม่ผมมาจากเมืองกาญจน์ ผมแวะพาน้องชายไปหาหมอที่พญาไท และพาน้อง ๆไปซื้อ Notebook ที่งาน commart โดยเราจอดรถกันที่ IT Mall แล้วนั่งรถไฟฟ้าไปกัน ซึ่งผมก็แวะไปดูพื้นที่งานที่บริษัทผมไปออกด้วย วันนี้คน (โคตร) เยอะมากๆๆ พ่อผมให้ซื้อ Notebookให้น้อง แต่รู้ไหมครับ โชคดีโคตรๆ อย่างที่ไม่เคยโชคดีมาก่อน ผมไปซื้อโน๊ตบุ๊กให้น้อง ซึ่งไปซื้อยี่ห้อ Acer พอซื้อแล้วก็ได้ไปจับรางวัล ซึ่งรางวัลปกติมันก็คือ พวกแผ่นรองเม้าส์ ชั่วโมงเน็ต แต่รู้ไหมครับ ผมได้อะไร………… โอ้วจ๊อดดดด ผมจับได้โน๊ตบุ๊กฟรี… ครับ โน็ตบุ๊กที่ผมซื้อมา เค้าให้ผมเลยฟรีๆ ได้รางวัลเป็น ได้สินค้าที่ซื้อไปฟรี (จริงๆราคา 1 บาท) นึกว่าเค้าพูดเล่น เค้าให้จริงๆ ครับ ราคา 3.5 หมื่น ได้ฟรี ๆ กลับมาให้น้องเลย เกิดมาไม่เคยโชคดีแบบนี้เลย  Acer สร้างความประทับใจให้ผมจริงๆ วันนี้

โชคดีจังเว้ยยย

16/11/05 เมียทองของผม..

16/11/05 เมียทองของผม…

ในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา ผมต้องกลับบ้านเร็ว หลายครั้ง จากปกติที่กลับบ้านประมาณ 4-5 ทุ่มทุกวัน เพราะผมต้องพาแมวของผมไปหาหมอ แมวตัวนี้ชื่อว่า “เมียทอง” ครับ เมียทองไม่สบายครับ..!

ในตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ผมเองไม่ค่อยได้มีเวลาดูแลมันเท่าไร กลับบ้านก็ดึก มาก็ไม่ค่อยได้เจอกัน…. ทั้งๆ ที่เมื่อก่อน เค้ากับผมนอนอยู่ด้วยกันประจำ แต่วันนี้ตอนเช้า เค้าได้จากผมไปแล้วครับ…….

“เมียทอง” เป็นแมวที่ผมไม่ได้ตั้งใจจะเลี้ยงตั้งแต่แรก ย้อนกลับไปเมื่อผมเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย รังสิต ตอนปี 3 (2538) มีคนให้แมวผมมา 2 ตัวโดยนำมาจากเมืองกาญจนบ้านผมเอง โดยผมตั้งชื่อทั้งสองตัวว่า “ทอง” กับ  “เทา” เพราะด้วยสีขนของมันครับ ตัวหนึ่งสีเหลืองปนขาวกับอีกตัว สีเทาปนขาว เป็นแมวคู่แรกที่ผมเลี้ยงเองกับมือ ทั้งคู่นี้อยุ่กับผมมาตลอด ทั้งในอาพาทเม็นต์ ที่ผมเช่าไว้กับเพื่อนๆ ตลอดช่วงเวลาที่ได้เรียนสถาปัตยที่รังสิต ซึ่งทั้งสองตัวนี้เป็นที่รักของเพื่อนๆ ผม ที่คอยแกลังและดูแลมันโดยตลอด แต่พอผมได้ย้ายบ้านมาอยู่ บ้านเช่าที่เมืองเอก ปรากฏว่า “ไอ้เทา” ได้หายตัวไปครับทำให้ “ไอ้ทอง” ต้องอยู่ตัวเดียว และวันหนึ่งผมได้ออกไปทานข้าวที่หน้าปากซอยเมืองเอกกับเพื่อนๆ ตอนดึกๆ ผมเจอแมวอยู่ตัวหนึงเดินผ่านผมมา หน้าตามัน งี่เง่ามาก จมูกก็แหว่งๆ (เหมือนไมเคิ่ลแจ็กสัน) มาเดินมาคลอเคลียผม ผมก็ให้อาหารมันกิน แต่พอจะกลับ ผมรู้สึกชอบแมวตัวนี้มาก จึงบอกเพื่อนๆ ว่าผมจะเอามันกลับไปเลี้ยง ซึ่งเพื่อนๆ ก็ไม่ได้ว่าอะไร และผมเองก็เลยถามคนแถวนั้น ก็พบว่ามันไม่มีเจ้าของ ผมเลยพามันกลับมา โดยเป้าหมายของการนำมันกลับมาเลี้ยงก็เพื่อให้มันเป็นเมีย ของ ไอ้ทอง แมวที่ยังอยู่อีกตัวของผม ผมเลยตั้งชื่อมันว่า “เมียทอง” (เพราะมันต้องเป็นเมียของไอ้ทองเท่านั้น)

พอพา “เมียทอง” มาเจอ “ไอ้ทอง” ต่างฝ่ายต่างก็กลัวกัน ไม่รักกัน หรือเป็นไปตามที่ผมคิดเอาไว้ ไอ้ทองกลับจะเข้าไปขู่และทำร้ายเมียทองเป็นประจำ (ฉี่แตกเลยบางที) แต่ผมและเพื่อน ๆก็หวังว่าซักวัน มันคงปรับตัวและรักกัน เมียทองอยู่กับไอ้ทองมาได้หลายเดือน แต่ดูเหมือนมันสองตัว จะไม่ค่อยรักกัน และเข้าใจกันเท่าไร จนถึงช่วงที่ผมกลับมาบ้านผม และได้พาสองตัวนี้กลับมาด้วย… แล้วอยู่ๆ ไอ้ทองก็หายตัวไป จากแถวบ้านผม(ส่วนใหญ่แมวตัวผู้มักไม่ค่อยอยู่บ้านเป็นหลักแหล่งเท่าไร ต้องพาไปทำหมัน) “เมียทอง” ผมเลยต้องรับเลี้ยงเมียทองเอาไว้

เมียทองกลายเป็นแมวของผมไปปริยาย มันนอน กิน ทำงาน กับผมตลอด 24 ชั่วโมงในช่วงเวลาปีสุดท้ายที่ผมเรียนและทำ Thesis วันหนึ่งผมพามันไปทำหมัน เพราะกลัวว่ามันจะมีเมียทองน้อย ๆออกมาเต็มไปหมด ซึ่งผมเองก็เลี้ยงไม่ไหวแน่ๆ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ผมกับเมียทองสนิทกันที่สุดแล้ว

แต่พอผมจบ และเริ่มทำงาน เราก็ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไร ส่วนใหญ่เค้าจะนอนกับผมทุกคืน พอมาช่วงปี 2547-8 เค้าก็ไม่ค่อยได้ขึ้นมานอนกับผมเท่าไรแล้ว มักจะนอนอยู่นอกบ้าน หรือบนโทรทัศน์ ทำให้เราเริ่มห่างกัน งานผมเยอะ กลับดึก และไม่ค่อยได้ดูแลเค้าเท่าไร ปล่อยให้เป็นแม่บ้าน ของผมช่วยดูแลแทน…

จนกระทั้งเมื่อ 6-7 เดือนที่ผ่านมา เมียทองที่ผมเห็นสภาพย้ำแย่มาก เนื้อตัวมันสกปรก ปากมันน้ำลายไหลยืดดดด ผมเองเห็นที่ไรก็อดสงสารไม่ได้ทุกที ช่วงนั้นเป็นช่วงที่ไม่ค่อยมีใครดูแลเค้าเท่าไรเลย

จนกระทั้ง คุณอาผมพาไปหาหมอ และก็ได้ยามากิน ซึ่งทำให้มันเริ่มดีขึ้น ซึ่งผมเองก็เริ่มรู้สึกผิดที่ไม่ค่อยได้ให้เวลากับมันเท่าไร ช่วงหลังๆ ที่ผ่านมา

ผมก็พามันไปหาหมอปาน แถวบางพลัด ซึ่งหมอเค้าวินิจฉัยแล้วว่ามัน อาจจะเป็นโรคเกี่ยวกับไต และโลหิตจาง  และนอกจากนี้ ปากมันก็ยังอักเสบ ทำให้น้ำลายมันไหลออกมาไม่หยุด เมียทองไปหาอยู่ติดต่อกันหลายวันในช่วงนั้น  ทำให้สภาพมันดีขึ้น น้ำลาย ไม่ไหลแล้วเนื้อตัวจากที่สกปรกก็เริ่มกลับมาสวยอีกครั้ง เริ่มกินได้มากขึ้น (กินไม่หยุด) จนมันกลับมาอ้วนพีอีกครั้ง

ซึ่งในช่วงนั้น ก็ต้องพาไปหมอประจำทุกๆ เย็น

แต่แล้วในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ผมไม่ได้พามันไปหาหมอ ผมติดประชุมอยู่ต่างจังหวัด แม่บ้านโทรมาหาผมว่ามันไม่ได้กินข้าว และนอนซมมา 2 วันแล้ว ซึ่งผมเองก็ตกใจ เพราะเค้าก็อาการดีอยู่ ปกติ อยู่ๆ ทำไมทรุดหนัก ผมเลยตั้งใจว่าอีกวันจะพาไปหาหมอ แต่แล้วอีกวันผมก็มีธุระด่วน น้องชายผมเลยพาไปหาหมอแทน หมอบอกว่า ลำใส้มันติดเชื่อ ประกอบกับมันเป็นโรคไตอยู่แล้วทำให้มัน ทรุดเร็ว ผมพามันไปหาหมออีกวัน (เมื่อคืน) สภาพมันแย่มาก มันไม่ทานอะไรเดินไปไหนไม่ได้ นอนอยู่ในตะกร้า ถ่ายออกมาเป็นเลือด…. หมอให้น้ำเกลือมันอยู่นาน เพราะมันขาดอาหารอย่างรุนแรงจากที่ไม่ทานอะไรหลายวัน หลังจากได้น้ำเกลือ มันก็ดูเหมือนจะมีแรงมาบ้าง ผมพามันกลับมาบ้าน และให้นอนในตะกร้า ก็คิดว่าตื่นเช้ามา มันคงจะเริ่มมีแรงเดินได้แล้ว แต่ตอนเช้าแม่บ้านผมมาปลุกแต่เช้า บอกว่ามันตายแล้ว……………….

เมียทองจากไปวันนี้ โดยที่ผมยังไม่แน่ใจเลยว่า อายุรวมจริงๆ ของมันเท่าไร แต่เดาๆดูมันน่าจะอายุ ประมาณ 9-10 ปี แต่ช่วงเวลาที่เค้าได้อยู่กับผมตลอด 8 ปีที่อยู่ด้วยกัน เค้าเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด  และเค้าได้ไปดีแล้ว….. ดีแล้วละจะได้ไม่ต้องทรมานอีก…  ผมคงคิดถึงมันไปอีกนาน…

โชคดีนะเมียทอง…! ขอโทษทีว่ะ ช่วงหลังไม่ค่อยได้ดูแลแกดีเท่าไร…!

7-8/11/05 อาทิตย์แห่ง Cyber Clean

จันทร์ 7/11/05

วันนี้จริง ๆ ทางเลขาฯ lสมาคมเว็บฯ ผมนัดให้ไปร่วมลงนาม Cyber Clean กับทาง กระทรวง ICT ซึ่งเค้านัดกันเช้า แต่ผมไม่ได้ไป เพราะนึกว่าบ่าย ตอนบ่ายมีนัดสัมภาษณ์กับ Designer ที่หามานานเป็นปี เดียวมาดูกันว่าจะได้หรือไม่….. วันนี้ผมเบื่อๆ ยังไงก็ไม่รู้ รู้สึกว่าตัวเองอยู่หน้าคอมพิวเตอร์นานไปหน่อย.. นานมาก จนร่างกายและจิตใจมันหดหู่ยังไงไม่รู้ อาจจะเป็นผลต่อเนื่องจากอาการ ติดอินเทอร์เน็ตอย่างแรง

และทางทีมงาน กรุงเทพธุรกิจ Biz Week ก็โทรมาบอกให้ผมช่วยเขียนคอลัมภ์เพิ่มลงอาทิตย์นี้ ต่ออีกอาทิตย์ติดกัน (ปกติผมเขียน อาทิตย์เว้นอาทิตย์) แล้วไอ้อาการเบื่อนี้มันจะยิ่งทวีคูญหนังขึ้นไปอีก เมื่อพอจะนึกเรื่องเขียนอะไรแล้วนึกไม่ออกเนี่ย.. มันต้องมานั่ง ๆ คิดๆๆๆๆ Research ศึกษาๆๆ พอสมควรเลย ถึงจะนึกออกว่า อาทิตย์นี้ (กู) จะเขียนอะไรดีวะ แต่ส่วนใหญ่ผมจะมี Road Map หัวข้อการเขียนไว้อยู่แล้ว แต่บางอาทิตย์ มันนึกไม่ออกจริงๆ ปวดกบาลครับ…!

ทำให้ช่วงบ่ายวันนี้ ผมเบื่อมากกกกกก อยากจะหนีไปไกลๆ ไปทะเล (แต่ไกลไป) ก็เลยตัดสินใจว่าจะไปซักแห่งที่เราสามารถแอบไปพักสมองง่ายๆ ผมเลย นั่งรถไฟฟ้าใต้ดิน ไป “หัวลำโพง” (ออฟฟิสผมอยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน เลยไปง่าย) ปกติผมไม่เคยนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปถึงสถานีหัวลำโพงเลย… วันนี้เลยได้มีโอกาสไป ผมนั่งจากสถานีลาดพร้าว ไปถึงหัวลำโพงใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเอง

ผมนั่งไปถึงที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพง พร้อมกับเดินชื่นชมความงามของสถานีนั้นอยู่ ที่ชื่นชมเพราะ โปรเจ็กจบ (Thesis) เมื่อตอนผมเรียนสถาปัตย์ที่รังสิต ผมทำเรื่อง Hua Lum Phong Transist Mall (หัวลำโพง ทรานซิสมอลล์) ซึ่งสถานที่ตั้งมันอยู่ที่ หัวลำโพง ซึ่งโครงการที่ออกแบบไว้ มีการเชื่อมโยงกับ สถานีรถไฟฟ้าใต้ดินหัวลำโพงด้วย ซึ่งในปีที่ผมทำโปรเจ็ก โครงการรถไฟฟ้าใต้ดิน กำลังสร้างอยู่ ผมเลยต้องใช้จินตนาการ ในการออกแบบโครงการนี้ออกมา

มาวันนี้ผมเลยมาดูซิว่า พอมันออกแบบมาแล้ว สร้างเสร็จจริงๆ มันจะได้ตามที่ผมคิดและจินตนาการไว้ไหม! หลังจากนั้นผมก็เดินไปที่สถานีรถไฟหัวลำโพง .. ทีนี้เปลี่ยนไปมาก จากที่ผมเคยมา เมื่อหลายปี ตอนนี้ที่นี้ ดูทันสมัย (ผสมความเก่า) อาคารขนาดใหญ่ ติดแอร์หมดแล้ว มีร้านค้า และป้ายต่าง ๆออกแบบจัดวางไว้อย่างดี ภาพของหัวลำโพงสมัยก่อน ที่ร้อนๆ คนเยอะๆ เปลี่ยนไปมากเลยทีเดียว…. ขณะที่เดินชมอาคารอยู่นั้น ….ทันใดนั้น โทรศัพท์มือถือผมก็ดังขึ้น ผมรับขึ้นมาก็ พบว่าเป็นเรื่องงานครับ ผมก็เลยต้องคุยเรื่องงาน อยู่ที่นั้นพักใหญ่เลยทีเดียว…  คุยจบ อารมณ์ด้านงานก็กลับมาคลอบจิตใจผมทันที ผมเดินทางกลับออฟฟิสทันที โดยในระหว่างทางก็คิดเรื่องงานไปเรื่อย พร้อมกับแอบม่อยหลับระหว่างการเดินทางกลับออฟฟิสด้วยรถไฟฟ้าใต้ดิน… กลับมาถึงออฟฟิส พร้อมกับนั่งทำงานต่อยันดึกครับ

อังคาร 8/11/05

วันนี้ประชุม head ตอนเช้า ตอนบ่าย ผมมีนัดสัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ Biz Week (เล่มที่ผมเขียนลงปกติ) แต่ข่าวที่ออกมาในหน้าหนังสือพิมพ์วันนั้น มีเรื่องโครงการ Cyber Clean ของกระทรวง ICT ของเมื่อวาน เรื่องคือ เว็บไซต์หลายๆ เว็บไม่ได้ไปร่วมลงนาม แต่ปรากฏว่ามีชื่อเว็บไซต์เหล่านั้นอยู่ในสื่อต่าง ๆ เหมือนไปร่วมลงนาม