ออกงานสัมมนาผ่านทางออนไลน์

ปกติผมเป็นคนเดินทางไปไหนมาไหนอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว ดังนั้นจึงหาเวลาได้ยากในการร่วมมกับงานสัมมนาหลายๆ งานที่ติดต่อเข้ามาให้ไปพูด แต่ช่วงอาทิตย์นี้ ผมได้มีโอกาสร่วมงานสัมมนา และรายการทีวี โดยใช้ออนไลน์เข้ามาเป็นเครื่องมือ

งานแรกเป็นงานของทางช่อง 3 จัดร่วมกับทาง กสทช. ผม Live สดผ่าน Google Hangouts จากภูเก็ตไปที่เวที ”3G/4G พลังขับเคลื่อนชีวิตและธุรกิจคนไทย” ที่ Siam Discovery พี่ๆ เพียบเลยบนเวที เอิ้น @panraphee อ.ธันญวัช @mktmag พี่มาร์ช คุณกระทิง พลังของ 3G ทำให้เราสื่อสารกันได้ทุกที่ มือถือที่คุณมี

อีกงานเป็นเข้าร่วมรายการทีวีของช่อง SME Channel สัมภาษณ์ผมเกี่ยวกับ E-Commerce

จะเห็นได้ว่า โลกมันได้เปลี่ยนไปแล้วจริงๆ  คุณล่ะ เปลี่ยนไปบ้างหรือเปล่า?

ไปโผล่ใน Music VDO ของวง วัชราวลี

ลองดูสิครับ ผมและ อีก 3  ท่านได้แก่ ป๊าเต็ดแห่ง ค่ายเกเร, คุณปลา จากร้าน iberry, แพ็ทจาก Stock2morrow ไปโผล่ใน Music Video ของวง วัชราวลี ต้องบอกว่า ผมใช้เวลา 1 คืน และอีก 1 วันเต็มไป ไปถ่ายทำ MV นี้ (ในส่วนของผม)​โดยเป็นการใช้ Live Style ของคน 4 คน สะท้อนภาพของการใช้รถ Toyota Fortuner มาดูกันครับ ผมว่าผมค่อนข้างลิงโลดเลยใน MV นี้ ฮ่าๆ

VDO Music Video ของวัชราวลี

 

VDO สัมภาษณ์ผม

ใครจะไปทิ้งฝันวะ…

เหมือนจะเริ่มได้ยินข่าวมาจากหลายคน ว่าผมจะออกจาก TARAD.com แหม.. ใครจะไปทิ้งธุรกิจที่ตัวเองสร้างมาได้ ถึงแม้ผมจะขายหุ้นส่วนใหญ่ให้กับทางญี่ปุ่น หรือจะเปลี่ยนแบรนด์ไปเป็น Rakuten ยังไง TARAD.com ก็ยังอยู่ ผมก็ยังถือหุ้นอยู่ และมันก็ยังคงเป็นบริษัทของผมอยู่ แล้วผมจะทิ้งมันไปทำไม (วะ)

ช่วงนี้ผมอาจจะลดงานประจำวันใน TARAD.com ลง เพราะตนเองยอมรับว่า ทางญี่ปุ่นเราระบบการจัดการที่ดีมากๆ ทำงานทุกอย่างเป็นระบบ ระดับหัวหน้าเก่งและ พัฒนาไปข้างมากดีทุกคน รวมถึงเพื่อนญี่ปุ่นผม ก็เก่งมาในด้าน operation ทำให้งานผมลดไปได้เยอะเลย ผมยังคงเข้าร่วมประชุมสำคัญ กำหนดนโยบาย กลยุทธ์สำคัญๆ และมันส์ๆ อยู่ ทุกอย่างเดินไปทางที่ผมต้องการ

จากการที่บริษัทพัฒนาละมีทีมงานที่ยอดเยี่ยม ทำให้ผมมีเวลาไปสร้างธุรกิจใหม่ๆ ที่จะต่อยอดกับ TARAD.com ต่อไป ทำให้ e-commerce ประเทศไทย ผู้ประกอบการไทยพัฒนาไปข้างหน้า

ฝันผมยังไม่เป็นจริงเลย จะให้ผมทิ้งฝันที่ผมตั้งใจทำไปได้อย่างไร  แต่สิ่งที่ผมกำลังสร้างอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งที่เคยทำมา เสริม synergy กับสิ่งที่มีอยู่ และกำลังจะมี เพื่อ ทีมงานผม, ผู้ประกอบไทย,, อุตสาหกรรม e-commerce ไทย, สังคมไทย และแน่นอน ประเทศไทยของพวกเราเติบโตไปข้างหน้าครับ  อ่านแล้วดูน่าหมั่นใส้นะ แต่มันก็ฝันของผม ที่ผมตั้งใจและตั้งมั่นทำมาตลอด 15 ปี… มันกำลังสนุกมากขึ้นเรื่อยๆ ครับ…

แหม.. จบได้หล่อจริงๆ กู ฮ่าๆ ว่าแมะ

อยากทำให้ประเทศเราก้าวไปข้างไหนมั้ย?

ช่วงนี้คุยกับองค์กรรัฐของสิงค์โปร์หลายแห่ง แผนเค้าตอนนี้คือ รุกทั้งอาเซียน เพราะประเทศเค้าเล็กเกินไป ทำให้เค้ามองการทำงานทีคือ รุกหลายๆ ประเทศในอาเซียน ผมว่าปีหน้าเราจะเจอมากกว่านี้อีก… เตรียมรับมือได้เลย… อย่ารอภาครัฐไทย อย่าบ่น บ่นไปไม่เกิดประโยชน์อะไร อย่าไปเปรียบเทียบ เทียบไปแล้วไม่เกิดผลออะไร

หากคิดว่าภาครัฐควรทำอะไร อย่าบ่น เดินเข้าไปคุยเลย เข้าไปเสนอเลย ผมมั่นใจว่าหากแผนคุณดีจริง ผลลัพย์มันดีจริงๆ กับสังคมและประเทศไทย ภาครัฐเอากับคุณด้วยแน่ๆ

ยกตัวอย่าง โครงการ Thailand Online Mega Sale ลดราคาออนไลน์ทั้งประเทศ ผมคิดเล่นๆ ประเทศไทยน่าจะมี ลองไปเสนอกรมพัฒนาธุรกิจ เค้าสนใจมากๆ และลองเสนอต่อหลายๆ หน่วยงานรัฐทั้ง ETDA, การท่องเที่ยว, ธนาคารต่างๆ ปรากฏว่าาโครงการนี้กลายเป็นโครงการจริงแล้ว และกำลังจะเริ่ม Launch สิ้นเดือน พฤษจิกายนนี้… หากเราเอาแต่บ่นว่าภาครัฐไม่เห็นสนับสนุนวงการ E-Commerce ไทยเลย มันคงไม่เกิดประโยชน์ หากเราไม่ก้าวไปหาภาครัฐ หากเราไม่ลงมือทำ แล้วเมื่อไรประเทศเราจะเปลี่ยนไปว่ะ?

เลิกบ่นเหอะ.. บ่นไปแม่งไม่เกิดประโยชน์เลย ประเทศเราต้องการการลงมือทำ การช่วยเหลือกัน เดินไปข้างหน้าด้วยกันระหว่าง รัฐ เอกชน และประชาชน ไม่ใช้การใช้ปากหรือคีย์บอร์ด บ่นๆๆๆ

ไม่เกิดประโยชน์ อยากเห็นมันเปลี่ยน “จงลงมือทำซะ” อย่าเอาแต่คิดอย่างเดียว ผมทำแล้ว มันได้ผล และมั่นใจว่าคุณเองก็ทำได้ครับ “อย่างคิดว่ามันเป็นไปไม่ได้” เพราะมันจะเป็นไปไม่ได้ตั้งแต่คุณคิดแล้วล่ะ “จงคิดว่าคุณทำได้ ทำได้ และทำได้ครับ”

++++++++++++++++++++++++++++++++

วันก่อนคุยกับพี่ Danupol Siamwalla ถึงเรื่องการเปลี่ยนแปลงของการเมืองไทย หลายคนบอกว่า เราไม่เห็นมี ทางเลือก เราไม่มีอัศวินม้าขาว ทำไมพรรคการเมืองนั้นไม่เป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้…… ทุกคนมีแต่ความคาดหวัง ทุกคนเอาแต่พูด บ่น พร่ำไปเรื่อย

ผมคุยกับพี่เค้า ผมเสนอเค้าเลยครับว่า พี่ครับ หากเราอยากเห็นพรรคการเมืองเปลี่ยนแปลงจริงๆ ทำไมเราไม่เดินเข้าไปคุยกับเค้าล่ะ ไปบอกเค้าเลย ว่าเค้าน่าจะเปลี่ยนแปลงนู้นๆ นี้ๆ นั้นๆ และขออาสาช่วยเค้าเลย บอกไปเลย เราช่วยอะไรได้บ้าง ทำอะไรได้ “เพื่อให้เห็นการเปลี่ยนแปลง ในสิ่งที่เราอยากเห็น” ไม่ใช่เอาแต่บ่นๆๆๆๆๆๆ เช่นเดิม บ่นไป.. แม่งก็ไม่เปลี่ยนหรอกครับ

สู้ลงมือทำ ลงไปเลย ไปคุยเลย ได้ไม่ได้ ไม่รู้ แต่อย่างน้อย เราได้ลงมือทำ.. หากมันไม่ได้ผล ก็ไม่เสียใจ เพราะได้ลงมือทำไปแล้ว ในสิ่งที่เราอยากทำ แต่ถ้าหากมันได้ผลล่ะ… มันจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในสิ่งที่เราอยากจะให้เป็น

ผมชื่นชมพี่โต้ Suharit Siamwalla ที่แกเห็นอยากกรุงเทพเปลี่ยนแปลง แกไม่บ่นครับ แกลุกมาลงสมัครเลือกผู้ว่าเลย… ตอนนั้นใครๆ ก็ว่าแกบ้า แต่ผมเห็นด้วยกับแก ล้าน % คุณอยากได้อะไร คุณต้องลงมือทำ ไม่ใช่เอาแต่บ่น ถึงแม้ครั้งนั้นพี่โต้ จะไม่ได้รับเลือกเป็นผู้ว่า แต่อย่างน้อยแกได้ทำอย่างเต็มที่ และเราเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของการเลือกตั้งผู้ว่า กทม ครั้งที่ผ่านมา… แกไม่ใช้ป้ายหาเสียงเลย แกใช้แนวคิดใหม่ๆ กับทางออนไลน์ ซึ่งผลลัพย์มันพิสูจน์ให้เห็นว่า

ความคิดของแก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการเลือกตั้งของไทย ไปเรียบร้อยแล้ว… เห็นได้ชัดว่าแกสามารถดึงคนหลายๆ คนมาร่วมแนวคิดเดียวกับแกได้… หากพี่โต้ ไม่ลุกขึ้นมา การเปลี่ยนแปลงครั้งนั้นก็คงไม่เกิด

นี้คือตัวอย่างนึงของการคิด แล้วลุกขึ้นไปทำ…. คุณอะ มีอะไรที่อยากเห็นประเทศนี้เปลี่ยนไปไหม? ลองลุกขึ้นไปทำสิ มันไม่ผิด ไม่มีถูกหรอก…

แต่อย่างน้อย เราก็ได้ลงมือทำ.! จงหาทางทำในสิ่งที่คิดไว้สิครับ.!

พบ Eric Schmidt Chairman of Google

ถือว่าเป็นเกียรติมากที่ทาง Google เชิญผมไปทานอาหารเช้าร่วมกับ Eric Schmidt Chairman of Google มีผู้ร่วมโต๊ะทานข้าวหลายท่านเลย มีทั้งหมด 9 คน 3 คนเป็นคนไทย มีคุณอามีชัย วีระไวทยะ คุณวริษฐ์ จากผู้จัดการ และผม (ผมได้นั่งติดกับ Eric เลย วู้)

Eric ถือเป็นคนสำคัญที่ทำให้ Google เติบโตไปข้างหน้าได้ จากบริษัทเทคโนยี ก้าวเข้าสู่การแข่งขัน การเติบโตอย่างรวดเร็วในด้านธุรกิจอย่างมาก ธุรกิจด้านเทคโนโลยี มีแค่เทคโนโลยีดี ไม่สามารถอยู่รอดและเติบโตได้ แต่ต้องมีผู้บริหารที่เข้าใจธุรกิจที่ดีอีกด้วย ซึ่ง Google ถือว่าเป็นองค์กรที่มีความลงตัว (Good Combination) ที่มีเทคโนโลยีที่ดีจาก Brin และ Page ผนวกกับการผู้บริหารอย่าง Eric ทำให้ทุกอย่างโตไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

ผมได้มีโอกาสพูดคุย แลกเปลี่ยนความรู้ กับหลายๆ คนบนโต๊ะอาหาร หลายๆ หัวข้อที่พูดกันเยอะมากคือเรื่อง คอรัปชั่นในเอเซีย ผมเลยถาม Eric ว่า เค้ามีมุมมองยังไงกับการแก้ปัญหานี้ แกตอบได้น่าสนใจว่า การใช้ e-transactional การขยายกลุ่มชนชั้นกลาง และการสร้างระบบที่ทุกคนมีโอกาสตรวจสอบ ได้ จะช่วยทำให้โปร่งใสมากขึ้น แกบอกว่า แกเคยมาไทยเมื่อ 15 ปีก่อน ตอนนั้นยังมีคนขี่ช้างอยู่เลย (ฮา) ตอนนี้เมืองไทยพัฒนาไปมากจริงๆ

มุมมองแกอยากนำเทคโนโลยีมาช่วยพัฒนาประเทศไทย ทำให้ไทยก้าวไปข้างหน้าได้เร็วมากขึ้น แอบดูมือถือบนโต๊ะทานข้าวแกใช้ Blackberry และ (น่าจะ) Nexus 5 นะ แกเห็นผมใช้ Android แกชอบใหญ่เลย ฮ่าๆ

กับ Eric Schmidt Chairman of Google

กับคุณอามีชัย วีระไวทยะ