Archive for December 2014
นอนน้อย อันตรายที่ใกล้ตัว.!
มีคนส่งมาใน Line อ่านแล้ว โดนตัวเองเลย เพราะนอนค่อนข้างน้อย บางช่วงน้อยกว่า 5 ชม. ต่อคืน เก็บไว้เป็นความรู้ครับ
======================
Ranjan Das ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
บริษัท SAP-Indian subcontinent เสียชีวิตจาก
หัวใจวาย หยุดเต้นรุนแรงในมุมไบเมื่อเร็ว ๆ นี้
เขาเป็นหนึ่งของซีอีโอคนสุดท้อง เขาอายุเพียง 42 ปี
สิ่งที่ฆ่า Ranjan Das ?
เขาเป็นคนที่ active มากในการเล่นกีฬา ได้รออกกำลังกายและยอดนักวิ่งมาราธอน
หลังจากการออกกำลังกายของเขาเขาทรุดตัวลงกับหัวใจวายและเสียชีวิต
เขาทิ้งภรรยาและลูกสองคนหนุ่มสาวของเขามาก
แน่นอน เหตุการณ์นี้ ปลุกเตือนองค์กรอินเดีย ยิ่งสร้างความตระหนกสำหรับนักวิ่ง
คำถามที่เกิดขึ้นว่า ทำไมคนที่แข็งแรงอย่างยิ่ง จึงต้องเสียชีวิตต่ออาการหัวใจวาย ในขณะที่อายุเพียง 42 ปี
เหตุผลที่แท้จริงคืออะไร?
ทุกคนมองข้ามสิ่งเล็ก ๆ ในรายงานที่ Ranjan Das ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงสำหรับการนอนหลับ
ในการให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ Ranjan Das ให้สัมภาษณ์ NDTV ในรายการ ‘Boss’ day out’ ,
Ranjan Das ยอมรับว่าเขานอนน้อย และอยากที่จะได้นอนหลับมากกว่านี้
ระยะเวลาการนอนหลับสั้น (น้อยกว่า 5 หรือ 5-6 ชั่วโมง) เพิ่มความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงขึ้น
350% – 500% เมื่อเทียบกับผู้ที่หลับนานกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน
คนหนุ่มสาว (25-49 ปี) มีความเสี่ยงเป็นสองเท่า ที่จะมีความเสี่ยงต่อความดันโลหิตสูงหากพวกเขานอนหลับน้อย
บุคคลที่หลับน้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อคืนมีความเสี่ยงเป็น 3 เท่า ต่อความเสี่ยงของโรคหัวใจ
ในคืนหนึ่งๆ ของการนอนน้อย จะมีการเพิ่มขึ้นของสารพิษในร่างกายมากเช่น
Interleukin-6 (IL-6), เนื้องอกเนื้อร้ายปัจจัยอัลฟา (TNF-alpha) และ
C-reactive protein (CRP) นอกจากนี้ยังทำให้เกิดโรคมะเร็งโรคข้ออักเสบและโรคหัวใจ
การนอนที่น้อยกว่า 5 ชั่วโมงต่อคืน จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้น 39% ในการเกิดโรคหัวใจ
การนอนที่น้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อคืน จะนำไปสู่การเพิ่มขึ้น 8% ในการเกิดโรคหัวใจ
การนอนหลับที่ดีคืออะไร?
ในช่วงสั้น ๆ การนอนหลับประกอบด้วยสองขั้นตอน:
REM (Rapid Eye Movement-ช่วงที่ลูกตาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว)
และ non-REM
REM จะช่วยในการปรับปรุงสภาพจิตใจ
ในขณะที่ non-REM จะช่วยในการซ่อมแซมและเสริมสร้างสภาพร่างกาย
ไม่น่าแปลกใจ เมื่อคุณตื่นขึ้นมาจากนาฬิกาปลุก หลังจากนอน 5-6 ชั่วโมง
คุณจะรู้สึกหงุดหงิดใจตลอดทั้งวัน (ขาดการนอนหลับ REM)
และถ้าใครได้นอนหลับน้อยกว่า 5 ชั่วโมง จะพบว่าร่างกายอยู่ในสภาพที่ไม่ฉบับสมบูรณ์ (ขาดการนอนหลับที่ไม่ REM), คุณจะเหนื่อยตลอดทั้งวันและภูมิคุ้มกันทางลง
โดยสรุป:
ในด้านการควบคุมความเครียด Ranjan Das ทำทุกอย่างถูกต้อง:
การรับประทานอาหารที่เหมาะสม, การออกกำลังกาย, การรักษาน้ำหนักที่เหมาะสม
แต่เขาพลาดในเรื่องการนอนหลับที่เหมาะสมและเพียงพอ(อย่างน้อย 7 ชั่วโมง) นั่นแหละที่ฆ่าเขา
เรากำลังเล่นอยู่กับไฟ ถ้าเรานอนหลับน้อยกว่า 7 ชั่วโมง แม้ว่าร่างกายเราจะมีความเครียดในระดับต่ำ
อย่าตั้งนาฬิกาปลุกของคุณให้ต่ำกว่า 7 ชั่วโมงสำหรับการนอน
Ranjan Das เขาไม่ได้เป็นแบบนี้คนเดียว มีอีกหลายคนมีพฤติกรรมแบบเดียวกัน
จงแบ่งเวลาส่วนหนึ่งของคุณให้กับงานสังคม.!
Thailand Online Mega Sale 2014 Launching Event at DBD. Lot’s of e-commerce player joining in this event.
การจะเติบโตในทางธุรกิจ เราต้องเติบโตไปด้วย ทั้ง Industry และตัวเรา เราไม่สามารถเติบโตไปคนเดียวได้.!
จงแบ่งเวลาของคุณส่วนหนึ่งให้กับสังคม และ Industry นอกเหนือจากงานของคุณเอง.!
ผมได้เรื่องนี้เต็มๆ มาจากป๊าผมเอง ป๊าผมชอบงานสังคมมากๆ แกทำ Rotary และผมเองก็เคยเป็น นักเรียนแลกเปลี่ยนของโรตารี่ (Exchange Student) ทำให้ผมมีแนวความคิดที่อยากจะทำอะไรกลับให้สังคมเช่นเดียวกัน
คุณจะได้อะไรกลับมามากมายโดยที่คุณไม่รู้ตัว เช่น เพื่อน, connection, การช่วยเหลือซึ่งกันและกัน, เปิดมุมมอง ปรับ Vision ของเราไปข้างหน้า
คุณล่ะ ได้ทำงานอะไรให้สังคมของเราบ้างไหมครับ?
เริ่มจากอะไรง่ายๆ รอบๆ ตัวก็ได้ครับ
เมื่อการสร้าง “แบรนด์” อย่างเดียวไม่พอสำหรับเอเยนซี่ในยุคนี้
เมื่อการสร้าง “แบรนด์” อย่างเดียวไม่พอสำหรับเอเยนซี่ คุณต้องทำให้เกิดยอดขายให้ลูกค้าคุณได้ด้วยเช่นเดียวกันในยุคนี้.!
“From Awareness to Transaction”
ผมพูดไว้ในงานของ BrandBuffet ดูย้อนหลังได้ครับ
ทำนายภูมิทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอีกสิบปีข้างหน้า
เจอบทความนี้ ใน internet ชอบมาก เลยขอนำมาเก็บไว้ ส่วนตัวผมมองว่า ทั้งหมด สามารถเกิดขึ้นได้จริง แน่ๆ
Thai Netizen Network
ทอมสันรอยเตอร์ ตีพิมพ์รายงาน “The World in 2025: 10 Predictions of Innovation” ทำนายภูมิทัศน์ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอีกสิบปีข้างหน้า โดยบทบาทของวัสดุศาสตร์และการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) นั้นมีมากขึ้นเรื่อยๆ
จากการรวบรวมข้อมูลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และข้อมูลการจดสิทธิบัตรทั่วโลกที่อยู่ในฐานข้อมูลของบริษัท ทีมวิจัยของทอมสันรอยเตอร์ (Thomson Reuters) ทำนายว่า นวัตกรรมใหม่ 10 อันดับแรกที่จะเกิดขึ้นใน ค.ศ. 2025 จะมีดังนี้
1. ทุกอย่างจะกลายเป็นดิจิทัล – สิ่งของทุกอย่างจะเชื่อมต่อกันด้วยระบบดิจิทัล อันเป็นผลมาจากการพัฒนาสารกึ่งตัวนำและตัวเก็บประจุ เครือข่ายโทรศัพท์ที่ไม่พึ่งระบบเซลลูลาร์ และเทคโนโลยี 5G
2. แสงอาทิตย์จะกลายเป็นแหล่งพลังงานหลักของโลก – การพัฒนาเทคโนโลยีด้านเคมีและโครงสร้างระดับนาโนของอะเรย์ ทำให้อัตราการแปลงแสงอาทิตย์เป็นพลังงานสูงขึ้น จากปัจจุบันที่ต่ำกว่า 10%
3. ภาวะสมองเสื่อมลดลง – ความสามารถเข้าใจข้อมูลทางพันธุกรรมของมนุษย์และการกลายพันธุ์ของยีน จะช่วยในการตรวจหาและป้องกันโรคที่เกี่ยวกับระบบประสาท เช่น ภาวะสมองเสื่อมและโรคอัลไซเมอร์
4. โรคเบาหวานชนิดที่ 1 จะสามารถป้องกันได้ – ความรุดหน้าในการใช้ RNA ช่วยในกระบวนการพันธุวิศวกรรม จะทำให้เราป้องกันโรคบางโรคได้ด้วยการแก้ไขยีน
5. การขาดแคลนอาหารและราคาอาหารที่ผันผวนจะกลายเป็นอดีต – ด้วยเทคโนโลยีส่องสว่างที่ใช้พลังงานต่ำผสมกับการแปลงพันธุกรรมพืช ทำให้เป็นไปได้ที่จะปลูกพืช 24 ชั่วโมงตลอดปีในพื้นที่ปิด นอกจากนี้เทคนิคด้านภาพจะช่วยให้ตรวจจับโรคและความผิดปกติในพืชได้อย่างรวดเร็ว
6. การขนส่งทางอากาศโดยเครื่องบินไฟฟ้า – แบตเตอรี่ที่เก็บไฟได้มากขึ้นในขนาดที่เล็กลง และทางเลือกเช่นไฮโดรเจนที่เกิดปฏิกิริยาผันกลับได้สำหรับเซลล์เชื้อเพลง ประกอบกับวัสดุที่เบาลง จะทำให้เราเห็นเครื่องบินไฟฟ้าขนาดเล็กเพื่อการพาณิชย์บินในเส้นทางใกล้ๆ
7. เซลลูโลสจะแทนที่ปิโตรเลียม – วัสดุจากนาโนเซลลูโลสที่แข็งแรงและมีน้ำหนักเบาจะมาแทนที่พลาสติก บรรจุภัณฑ์ทุกชนิดในอนาคต ไม่ว่าจะสำหรับใส่อาหาร ยา เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือเสื้อผ้า ทั้งหมดจะย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
8. การรักษามะเร็งจะก่อให้เกิดอาการข้างเคียงน้อยลง – ด้วยข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เกี่ยวกับผลในการรักษาระดับโมเลกุลของตัวยา และข้อมูลพันธุกรรมที่เจาะจงของคนไข้ แพทย์จะสามารถออกแบบยาให้ตรงกับยีนของคนไข้แต่ละรายเป็นการเฉพาะ ทำให้เกิดผลข้างเคียงน้อยลง
9. การทำแผนที่ทางพันธุกรรม (DNA Mapping) ตั้งแต่แรกเกิดจะเป็นเรื่องปกติ – ทารกจะถูกทำแผนที่ทางพันธุกรรม และจะมีการตรวจประจำปีเพื่อดูว่ามีสัญญาณบอกโรคหรือไม่ การตรวจเลือดจะเป็นเรื่องล้าสมัย เมื่อเราสามารถใส่นาโนโพรบหรือตัววัดขนาดจิ๋วลงไปในร่างกายเพื่อเก็บข้อมูลได้นานขึ้นและแม่นยำขึ้น
10. การทดลองการเคลื่อนย้ายสสารหรือเทเลพอร์เทชั่น (Teleportation) – ตั้งแต่เปิดใช้เครื่อง Large Hadron Collider (LHC) งานวิจัยเกี่ยวกับอนุภาคฮิกส์ก็มีมากขึ้น จำนวนงานวิจัยที่เพิ่งขึ้นอย่างมากดังกล่าว ทำให้เป็นไปได้ว่าในปี 2025 จะมีการทดสอบควอนตัมเทเลพอร์เทชั่น
ที่มา: http://sciencewatch.com/tags/2025
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ http://sciencewatch.com/sites/sw/files/m/pdf/World-2025.pdf
วันนี้เราปลูกต้นไม้กัน
วันนี้เราปลูกต้นไม้กัน เราปลูกมะม่วงแรด และศาลายา (ข้างๆ ต้นป้อน (มะม่วง)) ลงบัวเล็กในบ่อปลา ชมพู่มะเหมี่ยว x 2 พร้อมลงรอบๆ บ้านกับลิงๆ ล่ะ
ไม่มีพ่อคนไหนอยากให้ลูกตัวเองผิดหวังครับ
วันนี้ตั้งใจมากๆ ที่จะมางานวันพ่อลิงเป็ป จนต้องทำให้พลาดนัดสำคัญมากๆ คือทางผู้บริหารจากญี่ปุ่นมา และจะไปเชียงใหม่ด้วยกัน วางแผนหมดทุกอย่างไว้หมดแล้ว ทุกชั่วโมงตลอด 2 วันแน่นไปหมด เราเตรียมมาหลายอาทิตย์แล้ว
แต่เหมือนฟ้าผ่า เพิ่งมาพบว่างานวันพ่อของลิงเป็ปชนกับวันที่ผมต้องไปเชียงใหม่ ซึ่งนัดนี้สำคัญมาก เพราะผู้ใหญ่มากๆ มาเอง
ผมเคยไปงานวันพ่อปีก่อนแล้วเห็นเด็กบางคนคุณพ่อไม่ได้มางาน บางคนคุณแม่มาแทน หน้าเค้าเศร้ามากๆ ผมไม่อยากให้ลิงเป็ปรู้สึกแบบนั้น ผมจึงตัดสินใจไม่ยากเลยว่าจะทิ้งทริปสำคัญเพื่อจะอยู่งานวันพ่อให้กับลูก แทนที่จะไปเชียงใหม่
แต่ติดปัญหาคือ ทริปนี้เราวางแผนไปกันเอง ถ้าผมไมไป แล้วเค้าจะไปกับใคร เชียงใหม่เค้าก็ไม่เคยไป จะเลื่อนนัดก็ไม่ได้ เพราะทุกอย่างวางไว้หมดแล้ว และเค้ามาแล้ว โชคดีหนิง มาช่วยไว้ได้ (ขอให้ไปแทนแบบไม่มีทางเลือก อิอิ)
ผมไปงานวันพ่อปีนี้อย่างมีความสุข ลิงเป็ป Happy ถึงแม้พอเสร็จงานผมจะต้องรีบบึ่งนั่งพี่วิน ไปสนามบินดอนเมืองเพื่อไปนั่งเครื่องไปเชียงใหม่ทันที เพื่อตามไปช่วงเย็นและกลับพรุ่งนี้
ขอบคุณทราย ปู หนิง ที่ TARAD ที่ช่วยเป็นธุระงานนี้ให้ กระทันหันจริงๆ แต่มันก็ผ่านไปได้
ตอนผมบอกผู้บริหารญี่ปุ่น ว่าผมไปกับเค้าไม่ได้ เค้าตกใจมาก แต่พอบอกเหตุผลไป เค้าก็บอกผมว่า “เป็นเค้าๆ ก็จะทำแบบผมเช่นกัน” ขอบคุณที่เข้าใจหัวอกคนเป็นพ่อนะครับ ไม่มีพ่อคนไหนอยากให้ลูกตัวเองผิดหวังครับ