Thoth Zocial OBVOC (TZO)

ภาพวันที่ 5 มีนาคม 2010 ที่ผมกับตั้งแวะไปเยี่ยมทีม Thoth Media ของกล้าและออย เจอโดมด้วย ใครจะเชื่อว่ามันคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้เราได้มาทำงานด้วยกันในวันนี้

ข่าวจาก Brandinside

ควบรวมกันไปอีกรายกับสตาร์ตอัพผู้ประกอบการด้าน social data monitoring/analytics ในบ้านเรา โดยบริษัท Thoth Zocial ประกาศรวมตัวกับ OBVOC (หรือบางคนรู้จักในชื่อบริษัทเต็มๆ คือ Onebit Matter) พร้อมรับเงินทุนจาก N-Vest Venture ที่บริหารเงินทุนให้ธนาคารออมสิน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 1 ล้านดอลลาร์
ตลาด social data monitoring/analytics ในบ้านเราเคยมีผู้เล่นหลายราย และควบรวมกันมาเรื่อยๆ เพื่อให้แข็งแกร่งขึ้น ฝั่งของ Thoth Zocial เองก็เกิดจากการควบรวมกันของ Thoth Media และ Zocial Inc. ในปี 2015 โดยจุดเด่นของ Thoth Zocial คืองานด้านวิศวกรรมที่พัฒนาระบบดึงข้อมูลจากโลกโซเชียลมาใช้งาน ส่วน OBVOC มีจุดเด่นเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลโดยคน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าธุรกิจ การรวมตัวกันของทั้งสองบริษัทถือว่ามี synergy กันและเติมเต็มกันได้ดี

การรวมตัวของทั้งสองบริษัทจะทำให้มีผลิตภัณฑ์ครอบคลุมทุกเซกเมนต์ คือไม่ได้มีแต่การมอนิเตอร์ข้อมูลจากโซเชียลอย่างเดียว แต่ยังครอบคลุมไปถึงระบบ customer support, crisis management ด้วย ฐานลูกค้าของบริษัทจึงไม่ได้มีแต่ฝ่ายการตลาด (marketing) แต่ยังขยายไปถึงฝ่ายประชาสัมพันธ์-สื่อสารองค์กร (PR) และฝ่ายบริการลูกค้าด้วย ถือว่ายังมีตลาดให้เติบโตอีกมาก

การรวมตัวของ Thoth Zocial และ OBVOC จะใช้วิธีตั้งบริษัท holding ขึ้นมาถือหุ้น แต่ในแง่การดำเนินงานจะยังแยกกันบริหารอยู่ เพียงแต่ทั้งสองบริษัทจะเข้ามา synergy กันมากขึ้น และเริ่มปรับปรุงระบบไอทีให้เชื่อมโยงกัน
นอกจากการรวมตัวกันเพื่อผนึกกำลังทางธุรกิจแล้ว Thoth Zocial และ OBVOC ยังรับเงินลงทุนก้อนใหม่จากบริษัท N-Vest Venture บริษัทลงทุน venture capital (VC) สัญชาติไทย ที่ดูแลการลงทุนให้กับธนาคารออมสิน และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) อีกด้วย มูลค่าการลงทุนอยู่ที่ประมาณ 1 ล้านดอลลาร์ (35 ล้านบาท) โดย N-Vest เข้ามาถือหุ้นประมาณ 10% เท่ากับว่ามูลค่าบริษัทของ Thoth Zocial OBVOC อยู่ที่ประมาณ 350 ล้านบาท

นายศรันย์ สุตันติวรคุณ หุ้นส่วนบริหารของ N-Vest ระบุว่าสนใจเข้ามาลงทุนในดีลนี้ เพราะมองว่าตลาด social monitoring/analytics ยังเติบโตได้อีกมาก ไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยแต่รวมไปถึงภูมิภาคอาเซียนด้วย เพราะตลาดไทยอย่างเดียวคงเล็กเกินไป ในขั้นถัดไปก็จะผลักดัน Thoth Zocial OBVOC ให้ขยายตัวออกไปยังต่างประเทศต่อไป
ส่วนเรื่อง IPO ก็คงเป็นระยะถัดไป เพราะยังมีปัจจัยอีกเยอะ เช่น จะ IPO เมื่อไรและที่ไหน ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องเป็นที่เมืองไทยเสมอไป

นายกล้า ตั้งสุวรรณ CEO ของ Thoth Zocial มองว่าตลาด social analytics ยังเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผู้เล่นในตลาดยังไม่ต้องมาต่อสู้เพื่อแย่งเค้กกัน ทุกรายยังสามารถเติบโตได้ จุดเด่นของกลุ่ม Thoth Zocial OBVOC คือมีปริมาณ data coverage ข้อมูลครอบคลุมมากที่สุดในตลาดไทย (เช่น เป็นพันธมิตรกับ Pantip และ LINE) มีความถูกต้องแม่นยำของข้อมูลไม่เป็นรองใคร และเป็นเจ้าเดียวที่มี total solution ครอบคลุมทุกความต้องการของตลาด
ส่วนนายพเนิน อัศววิภาส CEO ของ OBVOC บอกว่าหลังรวมตัวกันแล้ว มีลูกค้าในไทยเกิน 100 ราย และคิดว่ามีแชร์เป็นอันดับหนึ่งของตลาดไทยตอนนี้ ด้วยส่วนแบ่งที่ค่อนข้างสูง เป้าหมายธุรกิจคือในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเติบโตให้ได้ 3-5 เท่าตัว
นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้ง Zocial Inc. และหนึ่งในผู้ถือหุ้น Thoth Zocial OBVOC ระบุว่าบริษัท Thoth Zocial และ OBVOC ถือเป็นตัวอย่างที่ดีของสตาร์ตอัพไทยที่มีโมเดลธุรกิจจริง มีรายได้จริง และตอบโจทย์ลูกค้าได้ ซึ่งจะต่างออกไปจากสตาร์ตอัพในยุคหลังที่ยังต้องพัฒนาพอสมควร ทั้งในแง่ตัวบริการและฐานรายได้ ดังนั้นภาครัฐไทยควรสนับสนุนสตาร์ตอัพที่มีการเติบโตลักษณะนี้จะเป็นประโยชน์มาก

เพิ่มศักยภาพธุรกิจไทย ง่ายดาย

​ทางสภาอุตสาหกรรม มาสัมภาษณ์ผมถึงแน้วโน้มประเทศไทย นี้คือข้อมูลบางส่วน และมี FB live ดูได้อีกเพียบเลยครับ 

============================

วิเคราะห์ทิศทางและมุมมองด้านเศรษฐกิจของประเทศไทยในยุคดิจิทัลในปี 2017 

ร่วมกับคุณภาวุธ พงษ์วิทยภานุ CEO, Founder บริษัท ตลาด ดอท คอม จำกัด

และนายกสมาคมอีคอมเมิร์ซประเทศไทย
ในยุคดิจิทัลนี้ มีสิ่งไหนที่ควรจำตามอง  สิ่งไหนที่ควรปรับเปลี่ยนหรือแก้ไข 

ในขณะที่ตลาดโลกกำลังปรับตัว ประสิทธิภาพ (Efficiency)  ในการดำเนินธุรกิจ และศักยภาพของผู้ประกอบการเป็นสิ่งสำคัญที่จะหนุนเศรษฐกิจไทยให้ไปรอด 
คุณภาวุธเล่าถึง การทำ Data Analytics ของเขาร่วมกับป้าที่ร้านอาหารตามสั่งข้างออฟฟิศ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ (Efficiency) ที่สามารถทำได้แม้ในร้านเล็กๆ และช่วยกระตุ้นยิดขายว่า   ” ผมเคยไปทานร้านอาหารตามสั่งแถวตึกออฟฟิศ แล้วผมก็สังเกตุเห็นว่าลูกค้าต้องรอนานมากกว่าจะได้ทาน แล้วผมก็มีโอกาสได้ไปยืนคุยกับป้าเจ้าของร้าน ผมบอกกับป้าว่า ด้วยความต้องการอยากจะปรับ efficiency ให้กับร้านของป้า ผมเลยเข้าถามแกว่า ป้าเคยวิเคราะห์ข้อมูลมั้ย ว่าวันๆ นึงป้าขายได้กี่จาน  แล้วลูกค้าเนี่ยเค้าสั่งเมนูไหนเยอะที่สุด ผมจึงตัดสินใจทำแบบสอบถามออกมาแล้วเอาไปให้ป้ากรอก แล้วแกก็พบว่า ส่วนใหญ่คนที่มาทานที่ร้านอาหารจะสั่งผัดกระเพรา มีบางส่วนสั่งผัดพริกแกง เมื่อรู้แล้วว่าลูกค้าชอบสั่งอะไร  ป้าก็ควรจะปรับการทำอาหารอาจจะด้วยการผัดเตรียมไว้ก่อน หรือทำในลักษณะของ Pre-Cooked แล้วพอคนมาสั่งก็ผัดใหม่เพื่อให้ได้อาหารจานร้อน จากเดิมที่ป้าใช้เวลา 3 นาทีต่อจาน ก็ลดลงเป็น 1 นาทีต่อจาน  efficiency ก็เพิ่มมากขึ้น ป้าก็สามารถขายอาหารได้เยอะและเร็วขึ้น ”    แล้วก็สืบเนื่องมาถึงการวิเคราะห์ข้อมูลของส่วนผสมและวัตถุดิบที่ป้าใช้ จากเดิมป้าต้องไปซื้อของสดทุกเช้า ป้าก็วิเคราะห์และซื้อของมาไว้เป็นรายสัปดาห์แทน  หรือจากเดิมซื้อตลาดสด ก็เปลี่ยนไปซื้อจากฟาร์มเลยก็ได้ ก็จะได้ของที่ราคาถูกลงเมื่อซื้อในจำนวนมากๆ และไม่ต้องไปซื้อบ่อยๆ   การเพิ่มประสิทธิภาพเพียงเท่านี้ก็ช่วยลดค่าใช้จ่าย และเพิ่มรายได้ได้แล้ว ซึ่งป้าก็ยอมรับว่า ป้าได้ลูกค้าเพิ่มจริงๆ

ดู Facebook Live ส่วนอื่นต่อได้ที่นี่ครับ

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=10155747941662178&id=648712177 

ข้อควรรู้สำหรับนักวิ่งหลังวิ่ง

​วันนี้เพิ่งไปซ้อมวิ่งมา 10 km วิ่งเสร็จก็ Line ไปถามโค้ช MJ โค้ชวิ่งที่เคยไปเรียนด้วย แกตอบดีมากๆ ขอ Copy มาไว้ที่นี่เพื่อเก็บไว้อ่านครับ

ขอบคุณเล็กบวกที่สรุปมาให้นะ

===============================

พี่ป้อม ถาม:

วันนี้วิ่ง 10 ไปแล้ว พรุ่งนี้จะวิ่งอีกได้ไหมครับ? หรือต้องพักก่อน  ผมกินเวย์โปรตีนไปล่ะ เดียววิ่งแล้วไปดึงโปรตีนจากกล้ามเนื้อ ถูกไหมครับ

พี่ mj ตอบ:

ไม่ครับ

การวิ่งมีการใช้พลังงานแป้งในกล้ามเนื้อ และไขมันใต้ชั้นผิวหนัง หลังวิ่งให้กินแป้งกลับคืนไปครับ แต่ไขมันไม่กิน ก็จะทำให้ไขมันลดลง พลังงานของแป้งในกล้ามเนื้ออยู่เหมือนเดิม 
หุ่นจะดีขึ้นเพราะไขมันลดลงครับ (อาหารที่ไม่ใช่ ผัดทอด ครับ)
ส่วนตอนที่เร็ววิ่งเร็ว หรือวิ่งนานมากๆ ใช้เวลานานกว่า 60 นาที ขึ้นไป มีโอกาสที่กล้ามเนื้อจะเสียหายเนื่องจากถูกใช้งาน ดังนั้นเราจึงต้องทานโปรตีน เพื่อไปซ่อมแซมกล้ามเนื้อที่เสียหาย 
คราวนี้ผมขอเจาะลงไปที่โปรตีน การวิ่งเป็นกีฬาที่ใช้ระบบการไหลเวียนเลือด และการทำงานของหัวใจ เพื่อส่งสารอาหารและออกซิเจนไปตามส่วนต่างๆ โดยเฉพาะ lower body ที่ใช้ในการวิ่ง 
การสร้างเม็ดเลือด และความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด จำเป็นต้องใช้ธาตุเหล็ก สังเกตว่าตอนบริจาคเลือด ทาง  รพ. จะให้ธาตุเหล็กมาทานบำรุง ดังนั้นโปรตีนที่ใช้ในการซ่อมแซมกล้ามเนื้อภานหลังจากฝึกวิ่ง ไม่ควรทานโปรตีนจากเวย์ เพราะโปรตีนจากเวย์มีแต่โปรตีน ไม่มีธาตุเหล็ก เนื้อไก่ก็มีธาตุเหล็กต่ำ โปรตีนที่ดีสำหรับ คนที่เล่นกีฬาแบบ long duration ต้องเป็นโปรตีนสีแดง เพราะมีส่วนผสมธาตุเหล็กสูง เช่น ไข่ไก่ที่มีไข่แดง เนื้อวัว เนื้อหมู เนื้อปลา ธาตุเหล็กที่มาจากเนื้อสัตว์ ร่างกายจะดูดซึมได้ดีกว่าผัก เมื่อร่างกายได้รับโปรตีนตากเนื้อสัตว์ สีแดง โปรตีนจะถูกย่อยเป็นกรดอะมิโน ไปซ่อมแซมเนื้อเยื่อกล้ามเนื้อที่เสียหาย ธาตุเหล็กในเนื้อสัตว์สีแดง จะไปซ่อมแซมและสร้างฮีโมโกลบิน ทำให้เม็ดเลือดสมบูรณ์ การวิ่งก็จะดีขึ้น มีทั้งแป้งที่เป็นพลังงาน 

มีทั้งโปรตีนที่ดีซ่อมแซม

มีธาตุเกล็กสร้างเม็ดเลือดแดง
Weight training เพื่อสร้างร่างกายแบบ hypertrophy กับ Running เพื่อสร้างร่างกายแบบ lean body ทานอาหารคนละแบบครับ เราทานอาหารเพื่อให้ฝึกได้ดี 
พี่ป้อม ถาม:

วันนี้วิ่งไป 10 โล แล้วพรุ่งนี้วิ่งอีก 10 จะได้ไหมครับ
พี่ mj ตอบ:

ถ้าพี่ป้อมจะวิ่งพรุ่งนี้แนะนำเป็นวิ่ง 3 กม. แต่ความเร็ว 5:30 ครับ ถ้าวิ่ง 10 กม. แบบเดิมก็ได้ครับ แต่สู้วิ่งเร็ว สลับกันไม่ได้ จะช่วยพัฒนาความสามารถในการวิ่ง และพัฒนา Heart Rate Zone ให้มีความหลากกลาย
เพิ่มเติม:

อาหารเสริมสำหรับนักวิ่งที่จะช่วยพัฒนาความสามารถและทำให้หุ่นดี แข็งแรง 

1. เนื้อสัตว์สีแดงที่หลากหลาย 

2. แป้งที่มีเยื่อใยสูง เช่น โฮลวีท โฮลเกรน ข้าวกล้อง ผักสด 

3. น้ำผลไม้คั้นสด
ป้อมถาม : พี่ MJ ผมลดการทานเนื้อสัตว์อยู่ครับ ทานอะไรแทนได้ครับ? วิตามิน อะมิโน?

พี่ MJ ตอบ : 

โปรตีนจากถั่วก็ได้ครับ 

ผักที่มีโปรตีนก็ บร๊อคโคลี่ ครับ ผักขม เนื้อปลาผมว่าน่าจะทานได้นะครับ ย่อยง่าย โปรตีนอาจน้อยกว่าเนื้อวัว แต่ความสมดุลของโปรตีนดีกว่ามาก