เมื่อคุณ “เติม” คุณก็ “โต”
ตลอดชีวิตการทำงานของผม ผมสังเกตุเห็นคนทำงานหลายๆคน ที่ทำงานโดยเฉพาะคนที่เป็นหัวหน้าคน หรือเจ้าของกิจการ ผมจะเจอคนและองค์กรอยู่ 2 ประเภท
- คนและองค์กรที่ตั้งหน้าตั้งตาทำงานแบบประจำวันไปเรื่อยๆ ไม่มีอะไรใหม่
พอใจในรูปแบบงานปัจจุบัน ไม่มีการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ ไม่มีแนวทางหรือความคิดว่า จะมีแนวทางในการปรับปรุงทำให้งานที่เราทำอยู่ดีและเร็วขึ้น หรือองค์กรเราจะเติบโตไปได้อย่างไร แบบก้าวกระโดด ง่ายๆ คือไม่มีเป้าหมายในระยะสั้นหรือระยะยาว (Shot and Long Term Goal) เช่น อีก 3-5 ปีข้างหน้าองค์เราจะเป็นอย่างไร? และเราจะปรับปรุงานปัจจุบันให้ดีขึ้นอย่างไร? ส่วนใหญ่จะเป็น “คนและองค์กรที่ไม่ค่อยเปิดหูเปิดตา เรียนรู้อะไรใหม่ๆ” ไปเรื่อยๆ พอมีอะไรใหม่ๆ เข้ามาก็ “กลัวที่จะเปลี่ยนแปลง คิดว่าการเปลี่ยนแปลงเป็นสิ่งที่ยาก ไม่สามารถเป็นไปได้” เราจึงไม่ค่อยคนและองค์ประเภทนี้เติบโตเท่าไร - คนและองค์กรที่เรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เป็นคนที่เปิดโลก
พยายามหาอะไรใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงตัวเองหรือองค์กร สร้างแนวทางการเติบโต และมีการวางเป้าหมายอย่างชัดเจน ทั้งในระยะสั้น และระยะยาว เช่นมองไปข้างหน้าว่า 3-5 ปี ว่าเราจะเป็นอย่างไร และแผนนั้น มีแนวทางการดำเนินการอย่างชัดเจน และมีโอกาสเป็นไปได้” ซึ่งเรามักจะเห็นคนและองค์กรประเภทนี้ เติบโตไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว “กล้า ที่จะมีการเปลี่ยนแปลงอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ”
กลับมาถามตัวเองว่า คุณเป็นคนและองค์กรประเภทไหน? เราอยากจะทำให้ทีมหรือองค์กรของเราอยากเติบโตไปข้างไหม แต่เรากลับไม่เคยกล้าทำอะไรใหม่ หรือ มองถึงการเปลี่ยนแปลง และเรียนรู้อะไรใหม่ๆเลย!
มา “เติม” และ “เติบโต” กันดีกว่า
หากอยากเปลี่ยนแปลง เป็นคนและองค์กรที่เติบโตไปข้างหน้า ผมมีเทคนิคและประสบการณ์ส่วนตัวที่ใช้แล้วได้ผลมาแนะนำ
- “เติมความรู้” เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และหาวิธีการ “นำมาใช้กับตัวเองและองค์กร” ไปดูงานบริษัทหรือทีมงานอื่นๆ ที่เค้าเติบโต และมีอะไรใหม่ๆ การเรียนรู้อะไรใหม่ๆ มักสร้างให้เรามีมุมมองอะไรใหม่ๆ อยู่เสมอ จงอย่าปฏิเสธการเรียนรู้อะไรใหม่ๆ
- “เติมโอกาส” เปิดโลก รู้จักคนให้มากขึ้น และโอกาส ก็จะมากขึ้นเช่นกัน อย่ามั่วแต่อยู่ใน office ที่บริษัท โอกาสมักไม่วิ่งเข้ามาหาเรา เราเองสิ ต้องวิ่งออกไปหามัน มีงานอะไรที่เกี่ยวข้องกับเรา หรือธุรกิจของเรา ควรจะออกไปร่วมและหาโอกาสไปบ้าง
- “เติมเต็มแผนการ” การวางแผนการ ว่าชีวิตคุณ หรือองค์กรคุณจะเป็นอย่างไรในระยะสั้นระยะยาว ที่มีแนวทางการดำเนินการอย่างชัดเจน และติดตามแผนการว่าเราดำเนินการไปเป็นอย่างไรบ้างแล้ว
- “เติมเต็มสิ่งที่ขาดไป” การเรียนรู้ความผิดพลาด ยอมรับและนำมาปรับปรุงให้ดียิ่งขึ้นไป คือปัจจัยของความสำเร็จอย่างยั่งยืน และจะทำให้เกิดการพัฒนาและก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว (นี้คือแนวทางของ Kai Zen)
- “เติมเต็มให้ผู้อื่น” เมื่อคุณได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ จงอย่างเก็บไว้คนเดียว การแบ่งปันให้ผู้อื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวคุณ จะทำให้ตัวคุณเองยิ่งได้กลับมามากขึ้น ลองอ่าน “ยิ่งคุณให้คนอื่นมากเท่าไร เรายิ่งได้รับกลับมามากเท่านั้น” แล้วคุณจะเข้าใจมากขึ้น
ผมว่าแค่ “เติม 5 อย่างนี้ให้กับตัวคุณ หรือ องค์กรของคุณ ผมเชื่อว่า จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงให้กับคุณและองค์กรคุณได้ไม่อยาก” ผมทำมาแล้ว และทำอยู่ในทุกๆ วัน ครับ ได้เวลามองย้อนกลับไปมองตัวคุณหรือองค์กรคุณแล้วละครับ..!
ปล. ขอบคุณอา เจ็กเล็กผม ที่สอน-สร้างโอกาสและการเรียนรู้ให้ผมอยู่เสมอ
สุดยอดป้อม!! เจ็กมีความภูมิใจในหลานชายคนนี้มากที่ได้กล้าคิด กล้าทำ กล้าลองผิด กล้าตัดสินใจ กล้าล้มเหลวเพื่อเรียนรู้ที่จะได้ชัยชนะ นี้เป็นอีกหนึงระบบความคิดที่ป้อมได้เรียนรู้นำมาประสมประสานกันจนเป็นความนึกคิดและ idea ของตัวเอง
ชอบข้อ 5 มากๆ “เติมเต็มให้ผู้อื่น” ความสุขเกิดจากการได้แบ่งปัน ยิ่งให้ยิ่งได้ หากองค์กรไหนที่มีผู้บริหารหรือพนักงานที่มีแนวความคิดนี้ องค์กรนั้นๆจะไปเหนือคู่แข่ง เพราะพวกเขาไม่ได้เอาเงินเป็นที่ตั้ง แต่พวกเขาเอาความสุข ความถูกต้องและการแบ่งปันเป็นที่ตั้ง
มีองค์หนึ่งประเทศไทยคือ “BNI(Thailand)” ที่ใช้ปรัชญานี้ “Givers’ Gain” ผู้ให้คือผู้ได้รับ ซึ่งผมเพิ่งเข้าไปสัมผัสและได้รับถึงพลังของการให้จากทุกๆคนในทีม ลองดูที่ link นี้ http://www.bnithailand.com/about-bni
Good…Good..Pom…that’s the way to do it.
LikeLike
เจ๊กเล็กใน
2010/06/30 at 10:23 AM
“เติม 5 อย่างนี้ให้กับตัวคุณ หรือ องค์กรของคุณ ผมเชื่อว่า จะนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงให้กับคุณและองค์กรคุณได้ไม่อยาก”
ได้ไม่ยากรึเปล่าพี่
LikeLike
@naynarajitt
2010/06/30 at 11:23 AM
ขอบคุณที่เขียนเนื้อหาดีๆให้อ่านครับ ขอขอบคุณด้วยการตั้งใจอ่านนะครับ ^^
LikeLike
@imsamai
2010/06/30 at 11:24 AM
ขอบคุณครับ 🙂
LikeLike
@thaimarketing
2010/07/02 at 6:29 AM
หลักการนี้ยอดเยี่ยมมากครับ การเปิดรับและแบ่งปัน
บางคนเปิดบางคนปิด บางคนได้ยินบางคนไม่ได้ยิน
ถึงอย่างไรเราก็ยังแบ่งปัน เพราะเราได้รับทุกครั้งที่แบ่งปัน
ขอบคุณครับคุณเล็กคุณป้อมที่แบ่งปัน…Joe
LikeLike
Joe
2010/07/02 at 2:10 PM
บทความของป้อมทำให้อาคิดได้หลายอย่าง ในองค์กรไม่ว่าจะเป็นองค์กรธุรกิจส่วนตัว หรือองค์กรส่วนรวม หากปฏิบัติอย่างนี้และจริงใจ คงเจริญไม่มีที่สิ้นสุด อาทึ่งในความสามารถของป้อม มิน่าล่ะ มีแต่ความดีแบบนี้ ทั้งตระกูล จึงเจริญรุ่งเรืองอย่างหาใครเปรียบไม่ได้ อาชื่นใจจริงๆ
อากำธร-อุไร ล้อวงศ์งาม
LikeLike
อุไร ล้อวงศ์งาม
2010/08/04 at 5:28 PM
สวัสดีครับ คุณอากำธร-คุณอาอุไร ขอบคุณสำหรับคำชมครับ ผมเองก็ชื่นชอบ และชื่นชมครอบครัว ล้อวงศ์งามมากครับ ที่อุทิศหลายสิ่งหลายอย่างให้กับธรรมะ หากมีโอกาสแจ้งมาได้เลยนะครับยินดีช่วยและสนับสนุนครับ
LikeLike
pawoot
2010/08/06 at 5:29 PM
ขอชื่นชมในต้ว ลูกป้อมมากๆ เมื่อวานได้ดู TV ตอนเช้า 22 ก ย 2553 วันนี้ มาเปิด email ยิ่งชื่นชม ใหญ่ ไปประชุมโรตารี่ จึงบอกกับ ป๊า ป้อม ว่า มันเก่งเหมือนมึงจริงๆ ป๊าป้อม ยิ้ม ภูมิใจมากเช่นกัน ขอให้ลูกป้อม มีความสุข ความเจริญยิ่งๆขึ้น
LikeLike
กำธร ล้อวงศ์งาม
2010/09/23 at 5:56 PM
สวัสดีครับพี่ป้อม ป๊าพูดให้ฟังเรื่องพี่อยู่บ่อย ๆ อยากจะรบกวนโทรไปปรึกษาหรือไปพบพี่ปรึกษาพี่บ้างไม่ทราบว่าพี่จะมีโอกาสให้ผมนิดหนึ่งไหมครับ
ตอนนี้ก็กำลังอยากจะเริ่มต้นอะไรออนไลน์อยู่เหมือนกันครับถ้าได้ยังไงส่งเมลเบอร์โทรพี่ให้ผมก็ได้แล้วผมจะติดต่อพี่กลับไปเองครับ
ขอบคุณมากครับ
ปล. อันนี้เป็นเว็บที่ผมทดลองทำดู.. ถ้ายังไงรบกวนพี่ไปดูแล้วช่วยแนะนำให้สักนิดนึงนะครับ
LikeLike
อธิปัตย์ ล้อวงศ์งาม
2010/09/24 at 1:15 PM